จันทร์. พ.ย. 25th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

“หมอเกศกมล” หอบหลักฐานเข้าพบ “ทนายเดชา” แต่ชิ่งหนีสื่ออ้างป่วยกะทันหัน จ่อฟ้องหมิ่นทุกกรณี

1 min read

กรุงเทพมหานคร-‘หมอเกศกมล’ หอบหลักฐานเข้าพบ ‘ทนายเดชา’ แต่ชิ่งหนีสื่ออ้างป่วยกะทันหัน มอบทนาย-อาจารย์ที่ปรึกษา แจงปมที่มาวุฒิ ป.เอก จ่อฟ้องหมิ่นทุกกรณี

จากกรณี ศาสตราจารย์ ดร.พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือหมอเกศ สว.กลุ่มวิชาชีพอิสระ ที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่ง ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องเรื่องวุฒิการศึกษา จบ ดร. จาก California University FCE ว่าเป็นมหาวิยาลัยห้องแถวหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าเรื่องวุฒิการศึกษาที่ได้มาทั้งหมดเป็นของจริง เรียนจริง จบจริง ไม่มีการซื้อใบปริญญา นอกจากนี้ยังถูกตั้งข้อสังเกตทักษะการพูดภาษาอังกฤษ

ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 ก.ค.67 ที่สำนักงานทนายเดชา หมอเกศ ได้หอบหลักฐานสำคัญเข้าพบทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ตอบทุกประเด็นคำถามปมที่มาวุฒิการศึกษาปริญญาเอก จ่อฟ้องหมิ่นทุกกรณีเอาผิดทุกคนที่บิดเบือน แต่เมื่อถึงเวลาแถลงข่าว หมอเกศ ซึ่งเดินทางมาถึงสำนักงานทนายเดชาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ทนายเดชาแจ้งสื่อข่าวหมอเกศมีอาการป่วยและเครียดจึงนั่งรออยู่บนชั้น 3 ของสำนักงานฯ ไม่ไหวจึงไม่ได้มาร่วมแถลงด้วย ก่อนจะเดินทางกลับในเวลาต่อมา

โดย ดร.สุขุมพงษ์ ชาญนุวงศ์ อาจารย์ที่ปรึกษาทำวิจัยปริญญาเอกของหมอเกศ ที่ California University FCE ได้แจ้งว่าวันนี้ หมอเกศไม่สามารถมาแถลงข่าวได้เนื่องจากป่วยหนัก ตนเองจึงมาทำหน้าที่ตอบคำถามและนำหลักฐานที่มีข้อสงสัยมาแสดงต่อสื่อมวลชน

ทั้งนี้ตนได้นำหนังสือจดทะเบียน มหาวิทยาลัย California University FCE กับกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐอเมริกา มาแสดงให้สื่อมวลชนดู เพื่อยืนยันว่าเป็นสถาบันประเมินวุฒิการศึกษาเพื่อที่จะมอบปริญญาเทียบเท่าของประเทศสหรัฐอเมริกาและเพื่อมอบตำแหน่งทางวิชาการให้กับบุคคลที่มาขอเทียบวุฒิการศึกษา ไม่ใช่อยู่ที่วานูอาตู อย่างที่เป็นข่าว และได้รับการรับรองโดยถูกต้อง หากคนค้นถูกที่ ก็จะเจอชื่อมหาวิทยาลัย เพราะเปิดมาแล้ว 30 ปี และหากไม่มีการรับรอง ก็ไม่สามารถที่จะเขียนคำว่า ‘University’ ได้

ส่วนเอกสารอีก 1 ใบ คือหนังสือรับรองความถูกต้องตามกฏหมาย ในการออกปริญญาบัตร ซึ่งเซ็นโดยเทศมณฑลนครลอสแองเจลีส เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ประทับตรา เพื่อเป็นการยืนยันในการออกหนังสือถูกต้องในการออกหนังสือรับรองเทียบวุฒิของหมอเกศ

ส่วนในใบวุฒิการศึกษาก็มีการเซ็นอนุมัติ โดยบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจเต็มในมหาวิทยาลัย ส่วนที่หมอเกศ ไม่เอาใบปริญญาที่จบจากประเทศไทยไปเทียบเพื่อขอวุฒิการศึกษา แต่เลือกที่จะทำวิจัย 5 หัวข้อ เพราะหัวข้อที่จะขอเทียบวุฒิไม่มีอยู่ในหลักสูตรของมหาวิทยาลัย ส่วนหัวข้อวิจัยทั้ง 5 ข้อยืนยันว่า มีการศึกษาวิจัยค้นคว้าจริงด้วยตัวของหมอเกศเอง แต่บางหัวข้อเป็นการศึกษาบทความร่วมกับผู้อื่น มีทั้งแบบตีพิมพ์และเพื่อเป็นผลงานทางวิชาการ

โดยวันนี้สื่อมวลชนได้ขอให้ ดร.สุขุมพงษ์ ค้นหาหัวข้องานวิจัยของหมอเกศ ใน Google ให้สื่อมวลชนดูสัก 1 หัวข้อ แต่เจ้าตัวเลือกค้นหาหัวข้อบทความที่เพิ่งตีพิมพ์ไปเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา และบทความนี้ไม่ได้นำไปใช้เทียบเพื่อขอวุฒิการศึกษา ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวขอให้หยิบเอาหัวข้อที่หมอเกศ ทำส่งเพื่อขอเทียบวุฒิ นำมาให้ดูแต่เจ้าตัวบอกจำไม่ได้ ต้องไปถามหมอเกศ เอง

ดร.สุขุมพงษ์ ยอมรับว่าตนเองเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของหมอเกศ ทำหน้าที่ตรวจทานวิจัยของหมอเกศ และปรับภาษาให้เท่านั้น ยืนยันไม่ได้รับทำวิจัย ส่วนเรื่องเงินค่าธรรมเนียมกว่า 200,000 บาท ทำไมไม่โอนให้มหาวิทยาลัยโดยตรง แต่กลับโอนเข้าบัญชีของ ดร.สุขุมพงษ์ เอง เนื่องจากเป็นระบบของทางมหาวิทยาลัย ที่จะต้องให้ทางตัวแทนเป็นคนประสานและดูแล ซึ่งก็คือตนเอง

ที่ผ่านมาตนเองเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับนักการเมือง 2 คนแต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว รวมถึงหมอเกศ ด้วย/ยืนยันว่าคำว่า “ศาสตราจารย์” ยังใช้ได้ในประเทศไทย แม้ California University FCE ไม่ได้รับรองจาก กพ. หรือ อว.ก็ตาม และ “ศาสตราจารย์” ที่จบจากต่างประเทศไม่จำเป็นต้องขอโปรดเกล้า หรือเป็นตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ

ดร.สุขุมพงษ์ ยังบอกอีกว่า หมอเกศเพิ่ง ส่งหัวข้อวิจัยและได้รับการอนุมัติจากมหาวิทยาลัยเมื่อเดือน เมษายน ที่ผ่านมา จึงเป็นไปได้ว่าหัวข้อวิจัยที่ได้ทำไปทั้ง 5 หัวข้อ ยังไม่ถูกบรรจุข้อมูลลงในระบบ จึงทำให้ค้นหาไม่เจอ ขณะเดียวกันหมอเกศ เริ่มเข้าสู่ระบบการขอเทียบวุฒิเมื่อปี 2021

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวขอให้ ดร.สุขุมพงษ์ ประเมินการใช้ภาษาอังกฤษของหมอเกศ หลังได้ไปออกรายการหนึ่ง แต่ถูกโจมตีระดับการใช้ภาษาอังกฤษไม่เหมาะกับการจบเมืองนอก ซึ่งอาจเป็นเพราะหมอเกศ ตื่นเต้นและภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้ทุกวันและไม่ได้เตรียมตัว แต่ยืนยันว่าภาษาอังกฤษของหมอเกศอยู่ในระดับใช้ได้ เพราะเคยไปพรีเซนต์งานออกซฟอร์ด ส่วนตัว ดร.สุขุมพงษ์ นั่น เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของหมอเกศ เคยสอนหลายมหาวิทยาลัย อยู่สหรัฐอเมริกามา 15 ปี จึงมีความคุ้นเคยกับระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา

ส่วนที่ชาวเน็ตต่างข้อสงสัยเป็นมหาวิทยาลัยห้องแถว นั้น ดร.สุขุมพงษ์ ระบุว่า ที่นี่เป็นสำนักงานให้การประสานสารเท่านั้น แต่อาคารสำนักงานใหญ่อยู่ที่เออร์ไวน์ ห่างออกไปประมาณ 67 กิโลเมตร และคนที่จะขอเทียบวุฒิไม่จำเป็นต้องมาเรียนแต่ทำการบ้านและหัวข้อวิจัยผ่านระบบออนไลน์ได้

ด้าน ดร.ณัฐวัชร จันทโรธรณ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก เคยเป็นอาจารย์ของหมอเกศและที่ปรึกษาของหมอเกศ กล่าวว่า ตนเองได้ให้คำปรึกษากับหมอเกศ ไปแล้วว่าในการสมัคร สว.ไม่จำเป็นใช้วุฒิการศึกษาที่จบจากต่างประเทศ แต่เจ้าตัวยังยืนยันว่าจะใส่ลงไปในใบสมัคร จึงได้เขียนหนังสือปรึกษาไปยัง กกต.

ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งปฎิบัติหน้าที่แทนเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าให้นำวุฒิการศึกษาไปใส่ในข้อ 3 คือประวัติการทำงานหรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครได้ แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจและถูกตรวจสอบ หมอเกศยอมรับว่าเครียดเพราะมีผลกระทบกับความรู้สึกและครอบครัว แต่ยังไม่ถอดใจออกจากการเป็น สว.

ขณะที่ทนายเดชา กล่าวว่า ได้รับการแต่งตั้งจากหมอเกศ ให้เป็นทนายความในการฟ้องร้องเอาผิด บุคคลที่หมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง โดยเฉพาะนักวิชาการ พี่ออกสื่อวิพากษ์วิจารณ์รวมถึงนักเคลื่อนไหว ทางการเมืองที่ยื่นให้ตรวจสอบตนเอง ให้คนเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของศาล หากใครยืนยันว่าการศึกษาของหมอเกศ นำมาใช้เป็นของปลอม ให้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ส่วนสื่อมวลชนถือว่าทำตามหน้าที่จะไม่มีการเอาผิดหรือฟ้องร้องแน่นอน

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.