เหยื่อนักเลงหัวไม้ ชี้มือฆ่าเพื่อนวงเหล้าต้องติดคุกยาว เจ้าตัวยังปฏิเสธ
1 min readบุรีรัมย์-โผล่อีกรายเหยื่อที่เคยถูกนักเลงหัวไม้ประจำหมู่บ้านทำร้ายเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เผยถูกทำร้ายจนกลายเป็นคนพิการมาจนถึงปัจจุบัน ระบุชายวัย 46 ปี ที่ถูกไม้ตีตายจะไม่ใช่รายสุดท้ายหากออกจากคุกมาอีก วอนให้ศาลตัดสินสูงสุด ขณะแม่ผู้เคราะห์ร้ายยังงง หลังผู้ต้องหายังปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ
วันที่ 14 ก.ค. 67 กรณีนายนายสุพจน์ หรือหงา จำเริญใหญ่ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 75 ม.8 ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ถูกทำร้ายด้วยการถูกไม้ด้ามจอบตีศีรษะ และเอาส่วนแหลมของด้ามจอบที่หัก มาแทงบริเวณท้องอีกหลายครั้ง ทำให้นายหงา เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
ผู้ต้องสงสัยและถูกควบคุมตัวในเวลาต่อมาคือนายบุญเชิด หรือเชิด เครือจันทร์ อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 20 ม.4 ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ คนบ้านเดียวกัน แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำ ยอมรับเพียงว่านั่งดื่มเหล้าด้วยกันเพียง 2 คนตั้งแต่ตอนเช้ายันเกิดเหตุ(15.00 น.)
นาย อภิโชค เลี่ยมรัตน์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.1 ต.ตาเสา อ.ห้วยราช หนึ่งในผู้ที่ถูกนายเชิดทำร้าย จนกลายเป็นผู้พิการมาจนถึงปัจจุบัน เล่าว่า ตนถูกนายเชิด ทำร้ายเมื่อปี 2562 ครั้งนั้นตนไม่ได้ทำอะไร แต่นายเชิด มาหาเรื่องแล้วลงมือใช้มีดทำร้ายตนอย่างบ้าคลั่ง เหมือนหมายเอาชีวิต แต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาตนกลายเป็นคนพิการโดยปริยาย เดินไม่คล่อง พูดไม่ชัด กลายเป็นคนไร้สมรรถภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ไม่คิดว่านายเชิด จะมาก่อเหตุขึ้นอีก เคสนี้อยากให้เป็นเคสสุดท้าย คืออยากให้ศาลตัดสินสูงสุด เพื่อให้อยู่ในเรือนจำยาวๆ
ขณะที่บรรยากาศที่งานศพของนายสุพจน์ ยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนางสมพร จำเริญใหญ่ แม่นายหงา ผู้เสียชีวิต ยังรับไม่ได้ที่ต้องเสียลูกชายเพียงเพราะคนชั่วคนเดียว ที่รับไม่ได้ยิ่งกว่านั้นคือนายเชิด ผู้ต้องหายังปฏิเสธมาจนถึงตอนนี้ว่าไม่ได้กระทำ ตนและชาวบ้านต่างมั่นใจเช่นเดียวกันว่าถ้านายเชิดไม่ได้ทำแล้วใครจะทำเพราะอยู่กันแค่ 2 คน และเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะลงโทษคนถูกอย่างแน่นอน
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวบุรีรัมย์