ด่วน! “ปวีณา” ประสาน ผู้การอยุธยา จับแล้ว ตาเขยหื่น วัย 72 ปี ตั้งกล้องถ่ายขณะย่ำยีหลานสาว 5 ขวบ
1 min readกรุงเทพมหานคร-“ปวีณา” ประสาน ผู้การอยุธยา จับแล้ว “ตาเขยหื่น” วัย 72 ปี ตั้งกล้องถ่ายขณะย่ำยีล่วงละเมิดทางเพศหลานสาว 5 ขวบ หลักฐานคลิปในมือถือชัด แม่ช็อก ร้อง “ปวีณา” ช่วย
แม่ช็อก!! ร้อง “ปวีณา” เจอคลิปลูกสาว 5 ขวบในมือถือตัวเองถูก “ตาเขยหื่น” วัย 72 ปี ตั้งกล้องถ่ายขณะย่ำยีล่วงละเมิดทางเพศ “ปวีณา” ประสาน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบรวมหลักฐานออกหมายจับ ก่อนนำกำลังบุกจับคาบ้านพักกรุงเก่า เตรียมส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) เตือนภัยพ่อแม่ผู้ปกครองอย่าไว้ใจปล่อยลูกไว้ลำพัง แม้คนใกล้ตัวอาจเป็นอันตรายตกเป็นเหยื่อได้
จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 9 ส.ค.67 เวลา 13.00 น. ที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา นางบี (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี เดินทางไปพบ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามคดีที่ลูกสาววัย 5 ขวบของบางบี ถูกนายฮิม (นามสมมุติ) ตาเขย อายุ 72 ปี ล่วงละเมิดทางเพศและถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ได้รายงานว่า หลังนางปวีณาประสานมา ได้ทำการสอบสหวิชาชีพเด็กหญิงและรวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับนายฮิม (นามสมมุติ) ตาเขยที่ก่อเหตุและทำการจับกุมตัวได้แล้ววันนี้
ความเป็นมาสืบเนื่องจากวันที่ 2 ส.ค 67 นางบี อายุ 46 ปี ชาวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร้องทุกมูลนิธิปวีณาฯ ผ่านทางโทรฯ สายด่วน 1134 แจ้งว่า แม่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าเอาไว้ใช้งานและบ่อยครั้งที่ลูกสาว 5 ขวบจะเอาโทรศัพท์มือถือไปเล่น แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร ทุกวันพ่อแม่ออกไปทำงานลูกก็จะอยู่กับญาติพี่น้องและบางครั้งแม่ก็ฝากลูกไว้กับน้องสาวยายและตาเขย ซึ่งทั้งคู่เองก็เคยเลี้ยงแม่มาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่งช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แม่ช็อก เมื่อเอาโทรศัพท์มือถือมาไล่ดูเพราะจะเปลี่ยนเครื่องใหม่และเอาเครื่องเก่าไว้ให้ลูกเล่น ในคลังภาพพบว่ามีคลิปวิดีโอลูกสาว 2 คลิป ถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 25 พ.ค.67 เป็นคลิปขณะที่นายฮิม ตาเขย ตั้งกล้องถ่ายขณะกำลังเล่นกับลูก กอดจูบ ดูดที่หน้าอกและอวัยวะเพศ แม่รับไม่ได้ ไม่คิดว่านายฮิมจะทำแบบนี้กับลูกสาวจึงเล่าให้สามีฟังแล้วตัดสินใจเข้าแจ้งความที่สภ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะติดต่อมายังมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยติดตามคดี
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พูดคุยซักถามเรื่องที่เกิดขึ้นจากนางบีทันที พร้อมประสาน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เดินทางไปรับสองแม่ลูกไปพบ พ.ต.อ.สุรพจน์ ก่อนจะรับทั้งสองคนมาอยู่ในความคุ้มครองของมูลนิธิปวีณาฯ และพาเด็กหญิง 5 ขวบไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ สอบสหวิชาชีพในวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่สำนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเด็กหญิงให้การชัดเจนตามคลิปหลักฐานที่ปรากฏ และบอกอีกว่า “ตาเขยทำหนูแล้วให้เงิน 20 บาทไปซื้อขนม”
ล่าสุดวันนี้ 9 ส.ค.67 นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ว่าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับนายฮิม ตาเขย ในข้อหา “กระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี” พร้อมทำการจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ขณะนี้อยู่ระหว่างแจ้งข้อหาและทำการสอบสวนก่อนจะคุมตัวไปฝากขังศาลในวันที่ 10 ส.ค.นี้ นางปวีณาจึงได้พาสองแม่ลูกเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมรับเอกสารผู้เสียหายทางคดี โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดี
นางปวีณา กล่าวขอบคุณ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ที่ทำงานช่วยเหลือดูแลบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนและจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ขอฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านหลายคนอาจต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรจะปล่อยลูกให้ห่างไกลสายตา หรืออาจจะต้องคอยสังเกตความผิดปกติของลูกเพราะเด็กๆ ที่ถูกกระทำจะกลัวจนไม่กล้าบอกใคร เคสนี้แม่มาเห็นคลิปจากมือถือถึงจะรู้ความจริงจึงร้องทุกข์มาที่มูลนิธิปวีณาฯ จากนี้จะประสานกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา และจะติดตามการช่วยเหลือดูแลสภาพจิตใจเด็กร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป