อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ร่วมกับอดีต ส.ส. ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานชุ่ยปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่ชาวบ้าน ส่งผลให้แผ่นดินกลายเป็นเหล็กสนิม

อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ร่วมกับอดีต ส.ส. ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานชุ่ยปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่ชาวบ้าน ส่งผลให้แผ่นดินกลายเป็นเหล็กสนิม สร้างความสงสัยกับชาวบ้าน โรงงานขนาดใหญ่ มีโรงบำบัดน้ำเสียหรือไม่

ที่บริเวณ หมู่ 16 ตำบลหนองเหียง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี นางสาวอังศุมาลิน ฉัตรสุวรรณวารีอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี นายประมวล เอมเปีย อดีตส.ส. ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังโรงงานแห่งหนึ่ง จากที่ได้รับการร้องเรียน มีโรงงาน ทำเหล็ก มีน้ำเสียรั่วไหล ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ เดือดร้อนกว่า 20 ไร่ เมื่อมาถึงพบว่า มีน้ำท่วมขังที่เป็นสีสนิม เป็นแนวกว้าง พื้นดินที่แห้งจนกลายเป็นเหล็กสนิม พืชผลการเกษตรตายหมด บ่อปลาที่เลี้ยงปลาก็ได้รับผลกระทบไม่สามารถเลี้ยงปลาได้ หลังชาวบ้านได้พบเห็นต่างกู่เข้ามาดีใจ เพราะร้องไปเวลานานแล้ว แต่เรื่องกับเงียบหาย อีกทั้งโรงงานแห่งนี้ เป็นโรงงานขนาดใหญ่ แต่ทำไมมีน้ำเสียเล็ดลอดออกมา ที่แสดงว่า ไม่มีบ่อน้ำเสีย แล้วอยากให้ในงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาจัดการแก้ไข โรงงานจีนแห่งนี้ อย่างจริงจังสอบถามนางบุญส่ง ใจกว้าง อายุ 71 ปี เล่าว่า ตนเองมีพื้นที่ 12 ไร่ ได้ปลูกมันสำปะหลัง รวมถึงพืชการเกษตรอีกหลายอย่าง แต่ไม่รู้ว่าน้ำสนิมที่มา จากโรงงาน มาได้อย่างไร ทำให้สภาพพืชการเกษตรเป็นอย่างที่เห็น หลังจากนั้นปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นเลย อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยได้ ให้เข้ามาช่วยเหลือหน่อย เพราะตนเองอายุก็เหลือน้อยแล้ว ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยพบเคยเห็นแผ่นดินกลายเป็นเหล็ก ที่เป็นมากว่าสองปีแล้ว

ขณะที่ นางรัตนา ศรีสมัย อายุ 59 ปี ได้มาชี้ที่ บริเวณเหล็กหลังคา กลายเป็นสนิม ที่น่าจะเกิดจาก ทาง สารเคมีจากการหลอมเหล็กลอยทางอากาศ อากาศ ทำให้เกาะกลายเป็นเป็นสนิม อีกทั้งเด็กเล็กที่อยู่บริเวณนี้ ก็ได้รับผลกระทบ สามวันดีสี่วันป่วย จากมีกลิ่นเหม็น ต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ ที่หมอบอกว่าเกิดจากมลภาวะเป็นพิษ ที่น่าจะเกิดจากโรงงาน โดยที่ไม่ได้รับการเยียวยาอะไรเลย อีกทั้งมีการร้องไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็เงียบหาย ไม่คิดจะให้โรงงานย้ายไป แต่ก็อยากให้มีการปรับปรุงบ้าง เพราะว่าชาวบ้านเดือดร้อนด้าน นางสาวอังศุมาลิน ฉัตรสุวรรณวารี อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ทางจังหวัดชลบุรี ก็ได้มีคำสั่ง นำกากเหล่านี้ ของพื้นที่ ประชาชน กว่า 16 ราย รวมถึงพื้นที่ของนางบุญส่ง ใจกว้าง อายุ 71 ปี ซึ่งได้รับผลกระทบมากสุดมีพื้นที่ 12 ไร่แต่เสียหายไปกว่าหกไร่ เอาไปกำจัดบำบัด แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ก็จะมีคำสั่งต่อไปตามมาตรา 39 ซึ่งต้องหยุดทำงานและปิดโรงงาน โดยที่ วันศุกร์ที่ 13 นี้ จะเรียกผู้ประกอบการโรงงาน รวมถึงผู้รับผลกระทบ มาประชุมร่วมกันกับทางจังหวัดชลบุรี และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกต่อไปในส่วนของ นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส. ชลบุรี กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการแจ้งให้ทางรัฐมนตรีทราบแล้ว ที่จะมาลงพื้นที่ แต่เริ่มต้นในตอนนี้ ต้องคุยกับอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีก่อน ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ ซึ่งมาเห็นแล้วก็ตกใจ จึงอยากฝากไปถึงผู้ประกอบการโรงงาน อย่าคำนึงถึงประโยชน์ โดยไม่แคร์ความเดือดร้อนของชาวบ้าน ขอให้เป็นแบบ โรงงานอยู่ได้ชาวบ้านอยู่ได้

ภาพ/ข่าว วิศาล แสงเจริญ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชลบุรี