บุรีรัมย์ เปิดใจตาคนขับรถนักเรียนเฉี่ยวสิบล้อตาย 2 เจ็บ 1 ญาติเชิญวิญญาณเด็ก
1 min readอำเภอเมือง//ตาวัย 77 ปีคนขับรถสองแถวรับส่งนักเรียนเปิดปาก สิบล้อขนดินไม่ยอมชะลอความเร็ว ระบุขับรถมานานกว่า 30 ปีมั่นใจขับพ้นแล้วแต่อีกฝ่ายไม่ยอมลดคันเร่ง ญาติทำพิธีเชิญวิญญาณ ชาวบ้านเผยเป็นจุดอันตรายแต่ไม่มีไฟแดง
วันที่ 30 ต.ค.67 กรณีนายเมธี เดชชสุภา อายุ 30 ปี ชาว ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ขับรถบรรทุก 10 ล้อทะเบียน 89-1929 นครราชสีมา บรรทุกดินจะเอาไปถมสถานที่ก่อสร้างเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์หลังใหม่
พุ่งชนส่วนท้ายรถสองแถว 6 ล้อทะเบียน 10-2710 บุรีรัมย์ เป็นรับดันแปลงมารับส่งนักเรียน มีนายเหลือ เปลี่ยนรัมย์ อายุ 77 ปี ชาว ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นคนขับ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ครั้งนี้ มี ด.ญ.สุนิศา หรือน้องนิ วางประโคน อายุ13ปี นักเรียน ม.1 และนางสาวศรัญรัตน์ หรืออ๋อมแอ๋ม โอดรัมย์ อายุ16ปี นักเรียนชั้น ม.5 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวม 2 ราย และมีนักเรียนชายชั้น ม.6 ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 รายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
แต่ผู้ปกครองเด็กต่างติดใจคนขับรถทั้งสองคัน ที่พยายามหลบหน้า โดยเฉพาะนายเหลือ นอกจากจะไม่มาพูดคุยกับผู้ปกครองเด็กแล้ว ยังพยายามจะทำลายหลักฐานด้วยการเอารถไปที่อู่ซ่อมรถ แทนที่จะเอาไปจอดที่สถานีตำรวจ
และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ญาติได้นำพระไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณในที่เกิดเหตุตามประเพณีมีเพื่อนนักเรียนโรงเรียนภัทรบพิตรมาร่วมพิธีจำนวนหนึ่ง ขณะญาติผู้เสียชีวิตต่างถามหาความรับผิดชอบของคนขับรถทั้ง 2 คน ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายผิดกันแน่
ล่าสุดนายเหลือ เปลี่ยนรัมย์ คนขับรถสองแถวรับส่งนักเรียน ออกมาเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากรถบรรทุก 10 ล้อขนดิน ที่ไม่ยอมชะลอความเร็ว ก่อนถึงแยกตนได้เปิดไฟเลี้ยงตามระยะที่กฎหมายกำหนด ทั้งยังเปิดไฟหน้าใส่รถสิบล้อให้ชะลอความเร็ว แต่รถสิบล้อไม่สนใจ และไม่ยอมเบาคันเร่ง พุ่งชนท้ายรถของตนดังกล่าว
นายเหลือ เล่าอีกว่า ตนเองขับรถมานานกว่า 30 ปี รู้ระยะห่าง รู้ความเร็วของรถดี ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ไปพบตำรวจและไปพบญาติผู้เสียชีวิต เพราะกำลังยุ่ง ยอมรับว่าได้เอารถไปจอดอู่จริงเพื่อเตรียมซ่อม
นางสาวศรัญญา โอดรัมย์(เสื้อน้ำตาล) อายุ32ปี แม่น้องอ๋อมแอ๋ม ที่เสียชีวิต เล่าว่าตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เห็นนายเหลือ มาพูดคุยเลยทั้งที่รู้จักกันมานานตั้งแต่ตนยังเล็กและบ้านอยู่ไม่ห่างกัน ซึ่งลุงเหลือจะต้องออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายเดชา กริมรัมย์ อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.สะแกซำ กล่าวว่า บริเวณที่เกิดเหตุ มีอุบัติเหตุเห็นประจำเพราะเป็นทาง 2 เลน เป็นบริเวณโค้งที่สำคัญจุดนี้ไม่มีสัญญาไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวบุรีรัมย์