“หลวงพี่น้ำฝน” แจ้งเรื่องด่วน ปิดตำนาน “พระปีนเสา” เจ้าอาวาสสั่งขับพ้นวัดสามชุกกลายเป็นพระเถื่อนแล้ว
1 min readร้อนแรงรับคืนวันเพ็ญ หลวงพี่น้ำฝน แจ้งเรื่องด่วน พระปีนเสาถูกสั่งขับพ้นวัดสามชุกแล้ว เอกสารระบุเจ้าอาวาสให้โอกาสแล้วแต่ยังไม่สะทกสะท้านกับคำสั่ง เผยทีมพระวินยาธิการพร้อมตามตัว ทำการสอบสวนเพื่อทำการจับสึกออกจากผ้าเหลือ เน้นย้ำขณะนี้ทีมพระวินยาธิการ จัดทีมเตรียมติดตามตัว โดยญาติโยมประชาชนทั่วไปแจ้งตรงมาที่วัดไผ่ล้อมหรือสำนักงานพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ ขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเตรียมออกหนังสือเวียนทั่วประเทศเรื่องพฤติกรรมของพระปีนเสา ซึ่งถูกขับพ้นสังกัดเป็นพระเถื่อนแล้ว
วันที่ 15 พฤศจิกายน 67 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ. เมือง จ. นครปฐม ได้แจ้งเรื่องด่วนซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ ในการสั่งให้พระครูปลัดธีรธนัช เมตตฺตธมฺโม สังกัดวัดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ให้พ้นจากสังกัดวัดสามชุก มีผล วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 หลังจากมีการประกาศหาตัวตั้งแต่เมื่อวานแต่ยังไม่มีใครแจ้งว่าเจ้าตัวยังสังกัดอยู่ที่วัดสามชุกตามที่ได้เคยมีการรับปากและไปรายงานตัวแล้ว
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานพระวินยาธิการ คณะภาค 14 เผยว่าวันนี้ได้รับหนังสือซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ ที่ ๘๓/๒๕๖๗ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ จากวัดสามชุก ตำบลสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ลงนามโดยพระครูสุวรรณวิจิตร เจ้าอาวาสวัดสามชุก ซึ่งเอกสารดังกล่าวถือว่าพระครูปลัดธีระฯ จะกลายเป็นพระไร้สังกัดทันที ซึ่งต้องมีการติดตามตัวให้มาทำการสอบสวนจากหลายฝ่ายและทำการสึกให้จบกระบวนการทางกฎหมาย
หลวงพี่น้ำฝน เผยว่า อาตมาได้รับหนังสือดังกล่าวมาจากพระวินยาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งในหนังสือก็ได้มีการระบุชัดเจนว่าท่านเจ้าอาวาสวัดสามชุก ได้มีความ เอื้อมระอากับพฤติกรรมของพระครูปลัดธีระฯ และการที่มีหนังสือสั่งการออกมาเช่นนี้ก็เกิดจากการทำงานเต็มที่ของคณะพระวินยาธิการ ที่ทำงานร่วมกันและทางพระปลัดธีระฯ จะมาอ้างอีกว่าเป็นเอกสารปลอมไม่ได้เพราะอาตมาได้รับหนังสือ มาจากคณะสงฆ์จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งขณะนี้ก็ได้ทราบข้อมูลจากท่านอินทราพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าจะมีการออกหนังสือเวียนไปยังวัดทั่วประเทศเกี่ยวกับการติดตามตัวและการรับพระเข้าสังกัดในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งหากพบตัวที่ใดก็จะต้องมีการเรียกตัวมาสอบสวนได้ทันที
“ครั้งนี้จะถือเป็นครั้งแรกที่เป็นการติดตามพระที่ปฏิบัติไม่เหมาะสมอย่างชัดเจนก็ว่าได้ เนื่องจากญาติโยมก็ความเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของพระครูปลัดธีระฯ ซึ่งกระทำให้เกิดความเสื่อมในคณะสงฆ์ อาตมาพบญาติโยมทุกที่ ก็เสียงเดียวกันว่าเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมที่ ปรากฏ แต่อาจจะมาก็ไม่คิดจะเป็นการซ้ำเติมใดใดเพราะถ้าท่านปฏิบัติดีแล้วก็จะต้องมีคนออกมาปกป้องท่านไปแล้ว” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องนี้มีความชัดเจนคือการปกครองของคณะสงฆ์ต้องเริ่มที่เจ้าอาวาสเป็นหลัก เพราะท่านเป็น ผู้ดูแลพระในสังกัด หากพระลูกวัดประพฤติไม่เหมาะสมในฐานะที่ท่านเป็นผู้ดูแลก็มีอำนาจในการขับออกหรือสั่งให้ลาสิขาได้ทันทีไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนไปถึงเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด ซึ่งในกรณีของพระครูปลัดธีระฯ ก็ชัดเจนว่ามีความกระด้างกระเดื่องเพราะเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ก็ได้มีการไปพบกับท่านเจ้าอาวาสและมีการถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน แต่วันต่อมาก็ได้มีการเดินทางไปที่กองปราบปรามและมีการแถลงข่าวจนเป็นประเด็นที่สังคมมองไปในทางเสื่อมเสีย
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานะของพระครูปลัดธีระฯ ตอนนี้คือท่านยังมีสภาพในการห่มผ้าเหลืองอยู่ ซึ่งหากใครเจอตัวก็จะต้องนำมาสอบสวนและทำการสึกเนื่องจากท่านเป็นพระที่ไม่มีสังกัดแล้ว โดยธวัชอื่นๆจะรับไว้ก็ไม่ทราบว่าท่านจะอยู่ได้อย่างไร ยิ่งมีการติดตามโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้มีการนำตัวมาสอบสวนอีก ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งด้วย อาตมาย้ำว่าพระสงฆ์ทุกรูปต้องอยู่ภายใต้กฎของมหาเถรสมาคม เป็นหลัก ที่สำคัญพระสงฆ์จะต้องอยู่วัดตลอดเวลา ไปไหนมาไหนจะต้องมีการแจ้งเจ้าอาวาสให้ทราบและต้องมีการขออนุญาตให้ถูกต้อง ซึ่งตอนนี้อยากให้พุทธศาสนิกชนหรือญาติโยมได้มีมุมมองอีกหนึ่งมุมคือพระที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นเพียงพระเล็กน้อยที่ก่อเรื่องเสื่อมเสีย เรายังมีพระสงฆ์ดีดีอยู่มากมายในประเทศของเรา แต่ข่าว ก็มักจะมีแต่ข่าวเสียเสียของพระบางรูปที่ประพฤติไม่เหมาะสมออกไป
หลวงพี่น้ำฝนเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีของพระครูปลัดธีระฯ ตอนนี้หากใครพบเห็นสามารถติดต่อประสานงานมาที่หมายเลขโทรศัพท์มือถือของอาตมาโดยตรง หรือจะแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดนั้นนั้นได้ทันที และขอเน้นย้ำว่านับจากนี้ในคณะสงฆ์ภาค 14 ที่อาตมาอยู่ในสังกัดและทำงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค 14 จะมีการเข้มงวดและติดตามพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ซึ่งญาติโยมและประชาชนทั่วไปก็สามารถที่จะช่วยกันติดตามแจ้งข่าวหรือรายงานข้อมูลให้ทราบเพื่อช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนาของเราได้ด้วยเช่นกัน
ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม