ผบช.ภ.7 บี้จนได้ 2 ใน 3 มือยิงสนามชนไก่บางเลน แจ้งข้อหาหนัก พยายามฆ่า ไว้ก่อน
1 min readผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เกาะติดคดีรั้วกระสุนใส่สนามชนไก่ โดยในช่วงเย็นที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวสองในห้าของมือยิงได้ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าไว้ก่อน ส่วนอีกสามรายที่หลบหนีฝากเตือนใครให้พักพิงหลบหนีมีความผิดด้วย
วันนี้ 22 ธันวาคม เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.บางเลน สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา 2 จาก 5 นัก พนันไก่ชนชาวราชบุรีก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงข่มขู่ขึ้นฟ้าในสนามชนไก่ ป.บางเลน โดยรายแรก นายสมควร หนูหุ่นและ นายอิทธิพล พวงอยู่ โดยทั้งคู่ไม่ยอมปริปากให้สัมภาษณ์กับทัพสื่อที่มาเกาะติดการไล่ล่าจับกุมของทีมอินทรีย์ 7 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 สืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม และทีมสืบสวนสภ.บางเลน ตลอดทั้งคืนหลังเกิดเหตุ ซึ่งถือเป็นการท้าทายกฎหมายในช่วงกวาดล้างอาชญากรรม
ขณะเดียวกันได้มี นายสำเริง อายุ 62 ปี คนขับรถตุ๊กตุ๊ก ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่ม โดยบอกว่าา ตอนนั้นตนเองได้ขับรถมาส่งลูกค้าบริเวณปากซอยทางเข้าสนามชนไก่พอดี ก็มีกลุ่มผู้ก่อเหตุ 5 คนเรียกใช้บริการ ซึ่งตัวเองไม่เห็นว่ามีใครถืออาวุธปืนมาด้วย โดยเมื่อขึ้นรถมาแล้วกลุ่มผู้ก่อเหตุแจ้งว่า ให้ไปตลาดบางเลน และมีหนึ่งในกลุ่มบอกให้ตนเองเร่งความเร็วพร้อมบอกว่า “เมียผมจะคลอดลูก” ซึ่งตนเองก็เร่งขับให้กระทั่งให้ไปจอดส่งที่บริเวณโรงเรียนอนุบาลแสงอรุณ ซึ่งห่างจากจุดรับประมาณ 7 กิโลเมตร และคนทั้งหมดได้ลงจากรถไป
ส่วนพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งห้าคนไม่ได้มีพิรุธแต่อย่างใด ขณะที่นั่งอยู่บนรถก็เงียบนิ่งไม่ได้พูดอะไร ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้สังเกตว่าวิ่งหลบหนีอะไรมาหรือไม่ กระทั่งไปส่งทางผู้ก่อเหตุได้ยื่นค่ารถให้จำนวน 500 บาท โดยบอกว่าไม่ต้องทอน ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นเงินพิเศษค่าเร่งความเร็วให้ที่มาส่ง
ต่อมา พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ได้เดินทางมาที่ สภ.บางเลน ในการติดตามความคืบหน้าในการไล่ล่าในการจับกุมคนร้ายทั้ง 5 คน โดยให้สัมภาษณ์ว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองราย ทราบว่าเกิดเหตุได้เข้าไปเล่นในบ่อนพนันชนไก่ซึ่งได้รับอนุญาตเปิดถูกต้องตามกฎหมาย โดยเหตุจูงใจในการก่อเหตุคือเรื่องของการพนันชนไก่ โดยหลังจากแพ้พนันแล้วจำนวนเงินที่จะชดใช้หรือมอบให้กับอีกฝ่ายไม่เพียงพอและมีการเจรจาแล้วแต่ไม่เป็นผลโดยกลัวจะเกิดเหตุรุนแรงจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นเพื่อจะเปิดทางในการหลบหนี ซึ่งทั้งห้าคนมีการเสียพนันเงินรวมกันแล้วเป็นเงินหลักแสน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวต่อไปว่าสำหรับผู้ต้องหาทั้งสองคนที่เข้ามามอบตัวได้มีการนำอาวุธปืนเข้ามาพร้อมกับการขอพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นปืนขนาด 9 มม. โดยเป็นเหตุหลังจากทราบว่าตัวเองถูกออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งอาวุธปืนทราบว่า มีทะเบียนแต่จะมีการตรวจสอบหลักฐานว่าเป็นชื่อของใครและมีอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทั้งคู่หลบหนีในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7
” ทั้งสองคนจับกุมตัวมานั้นพบว่ายังไม่เคยปรากฏว่ามีหมายจับมาก่อน แต่สามคนหลบหนีตอนนี้ขอแจ้งให้ทราบว่าหากใครให้พักพิงหรือให้ที่หลบหนีก็จะมีความผิดไปด้วย โดยทราบว่าตอนนี้มีชาวบ้านได้มาแจ้งว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้มีการลักทรัพย์เป็นรถจักรยานยนต์ไปด้วยโดยตรงนี้จะมีการสอบปากคำหากพบว่ามีความผิดก็จะมีการดำเนินคดีทางกฎหมายทาง โดยเบื้องต้นตอนนี้ทั้งหมดถูกตั้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าไว้ก่อนเนื่องจากวิถีกระสุนที่ยิงออกไปแล้วหากถูกใครก็ถึงแก่ชีวิตและเป็นอันตรายได้ ส่วนอาวุธปืนที่ถูกนำเข้าไปในสนามชนไก่ทราบว่ามีการลักลอบเข้าไปและน่าจะเป็นความหละหลวมในการตรวจค้น ส่วนจะมีการวางแผนกันมาก่อนหรือไม่ยังไม่ทราบเพราะเพียงสอบปากคำเบื้องต้นต้องขอดูในสำนวนครั้งหนึ่ง” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวปิดท้าย
ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม