จันทร์. ก.พ. 24th, 2025

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

“ทักษิณ” ควงภูมิธรรมและทวีหารือผู้บริหารสถานศึกษาผู้นำศาสนาและประชาชน หลังนายกอุ๊งอิ๊งได้เทงบประมาณพัฒนาภาคใต้

1 min read

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ก.พ.68 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาประธานอาเซียน พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ร่วมเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบ 20 ปี หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีประชุม ครม.สัญจรที่ จ.สงขลา และมีการอนุมัติงบประมาณในการพัฒนาด้านต่างๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยจุดแรก นายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางมายังวัดประชุมชลธารา ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี เข้ากราบนมัสการพระธรรมวัชรจริยาจารย์ หรือ พ่อท่านอ่อน เจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา เป็นพระเถระชื่อดังด้านการพัฒนา ที่ได้รับการเคารพศรัทธาจนได้รับสมญานามว่า เป็นพระสงฆ์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยพุทธและมุสลิม โดยนายทักษิณ ได้มีการมอบปัจจัยจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ในการทำนุบำรุงพระศาสนา และพร้อมรับมอบพระจำนวน 1 องค์ ก่อนที่จะมีการพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล

ต่อมานายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้มีการประชุมร่วมกับผู้แทนสมาพันธ์ไทยพุทธ หอการค้า กำนัน ผวจ.นราธิวาส นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และตัวแทนองค์กรเอกชน จำนวน 20 คน โดยไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ารับฟัง ซึ่งในที่ประชุมได้หารือในเรื่องของการปิดช่องทางข้ามธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวต้องเปลี่ยนไป โดยให้มีการประสานพูดคุยกับทางการมาเลเซียให้อนุโลม ความเลื่อมล้ำด้านการศึกษาที่โรงเรียนเอกชนจะได้รับเงินอุดหนุนที่ไม่เท่าเทียมกับโรงเรียนของรัฐ รวมไปถึงด้านการท่องเที่ยวการค้า ที่ประสบปัญหาซบเซาหากคืนกลับสภาพดังเดิมจะสามารถทำให้เศรษฐกิจภาพรวมของนราธิวาสดีขึ้น ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่เป็นผลพวงคือปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ที่เชื่อว่าอดีตนายกทักษิณสามารถใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านได้โยไม่ยากเน็นนัก

หลังจากนั้นนายทักษิณ อดีตนายกฯและคณะ ได้พบปะผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาและผู้นำเครือข่ายชาวไทยพุทธ จำนวนกว่า 1,000 คน ที่ได้มีการกางเต็นท์ไว้ภายในวัดประชุมชลธารา โดยชาวบ้านจำนวนกว่า 200 คน ได้มีการรำต้อนรับด้วยความอบอุ่น ซึ่งนายทักษิณ อดีตนายกฯ ได้กล่าวกับพี่น้องประชาชน พร้อมสรุปใจความว่า ผมมาในวันนี้ในฐานะอดีตนายกฯลงมาเพื่อสานต่องานในสมัยที่ผมเป็นนายกฯ แต่ถูกปฏิวัติเสียก่อนเสียดายที่ของดี จ.นราธิวาส ทั้งแหล่งทิองเท่ยว ลองกอง ควรที่จะได้รับการผลัดดัน ซึ่งผมได้มีการหารือกับนายกฯมาเลเซียและกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาของดีของ จ.นราธิวาส

จุดที่ 2 นายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา ซึ่งตั้งอยู่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง โดยมีนายมะสุขรี ซีเดะ ผอ.โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา และคณะครูอาจารย์ นักเรียนผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นและประชาชน คอยให้การต้อนรับ ก่อนที่จะมีการประชุมร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นและประชาชน ในการปรึกษาหารือด้านการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งนายทักษิณ อดีตนายกฯ ได้มีการพูดคุยข้อผิดพลาดครั้งที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต้องขอโทษทุกคนทุกฝ่ายในเรื่องของการเหตุการณ์ตากใบ ที่ทำให้ทุกคนได้รับผลกระทบต่อชีวิต ผมกลับมาคราวนี้เพื่อที่จะสานต่อนโยบายต่างๆให้ลุล่วงเพื่อคนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กลับมาอยู่ดีกินดี โดยใช้เวลาในที่ประชุมกว่า 1 ช.ม.

ก่อนที่จะมีการรับประทานอาหารกลางวัน นายทักษิณ อดีตนายกฯ ได้เปิดเผยว่า ในพื้นที่และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหัวใจสำคัญในการที่จะทำให้เกิดสันติสุขกลับคืนมาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในพื้นที่แห่งนี้เราต้องมีการพูดคุยกันให้เข้าใจ ซึ่งอาจจะเกี่ยวพันกับบุคคลที่เข้าไปอยู่ในต่างประเทศบ้างก็ต้องมีการพูดคุยกัน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้มีการพูดคุยกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนอยากเห็นประเทศไทยและอยากเห็นอาเซียนมีความสงบสุข เพื่อที่จะได้มีการลงทุน และมีการมาท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะฉะนั้นทุกคนยินดีที่จะร่วมมือกันหมด ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ผมรู้สึกว่ายังไม่ได้รับความร่วมมือแบบนี้มาก่อน ซึ่งเชื่อมั่นว่าเราน่าจะแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีกว่า ซึ่งการที่บุคคลทั้ง 2 สัญชาติซึ่งไม่มีความผิดใดๆในการข้ามด่านพรมแดนไปมาด้วยเพราะเข้าไปทำมาหากินและการไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง แต่ในกรณีที่ข้ามไปข้ามมาในการก่อการร้ายในประเทศไทยและหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งเราจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยที่เราต้องมีการพูดคุยกันก่อนและเมื่อคุยกันจบแล้วทุกอย่างมันสามารถที่จะปรับได้หมดว่าเราจะทำอย่างไรที่จะให้คนที่กระทำความผิดไปแล้วได้สำนึกผิดกลับมายังประเทศไทยดังเดิม ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันในหลายขั้นตอน ซึ่งมันเป็นแนวที่เคยใช้สมัยที่พลเอกชวลิตทำอยู่ก็เป็นผลดี ซึ่งในวันนี้อาจจะต้องมีการพูดคุยในหลายๆฝ่ายและปรับให้มันเป็นไปได้เพราะทุกอย่างเป็นไปได้ ซึ่งเวลาผ่านไป 20 กว่าปีแล้วก็อยากจะกลับมาเห็นว่าความรู้สึกของคนที่นี่เป็นอย่างไร ทัศนคติที่จะเห็นความปรองดองสันติสุขเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้เท่าที่ได้มาเห็นมีด้านบวกขึ้นเยอะ และยิ่งไปกว่านั้นผมได้มีการประสานงานไปยังต่างประเทศด้วยผมมั่นใจว่ามันเป็นสิ่งที่หาข้อยุติได้ ซึ่งผมเชื่อว่าภายในปีนี้จะเห็นสัญลักษณ์ที่ดีขึ้นและปีหน้าก็น่าจะจบ ซึ่งใจผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่าทำงานยังไม่จบซึ่งจบในที่นี้ก็คือสันติสุขของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็อยากจะเห็นตรงนี้ให้จบแบบสันติสุข โดยเอาประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสมัยก่อนที่เคยทำมาแชร์กันว่าต้องมีการปรับอย่างไร ซึ่งวันนี้ทัศนคติของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เปลี่ยนไปเยอะเบาลงเยอะ แม้กระทั่งที่ได้คุยกับทางกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนปอเนาะและโรงเรียนตาดีกาต่างๆก็รู้สึกได้ว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก และภายในปีนี้ทุกอย่างคงจะเห็นได้ชัดขึ้น เพราะอย่างนายยูซูฟ กัลลา อดีตรองประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซียก็อาสาเข้ามาช่วยเหลือ และมาจากอีกหลายที่โดยมีการให้คำแนะนำอย่างห่างๆ และแน่นอนเจ้าหน้าที่ที่ทำงานลงพื้นที่เขาต้องทำงานโดยตรง

ส่วนกรณีที่มีเหตุการณ์ระเบิดที่ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และท่าอากาศยานนราธิวาส ซึ่งเป็นเรื่องสัญลักษณ์ในเรื่องของจะมีบางคนที่อยากให้ผมตกใจ ซึ่งบังเอิญผมเป็นคนที่ตกใจยาก ซึ่งไม่รู้สึกกระทบต่อจิตใจเพราะผมเป็นคนใจแข็ง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมถูกลอบฆ่ามา 4 ครั้งแล้วยังรู้สึกเฉยๆเลย

Loading…

ใส่ความเห็น

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.