สองตายายโวย! ถูก อบต. ปักป้ายกล่าวหาบุกรุกที่สาธารณะ ทั้งที่มีโฉนดถูกต้อง – นายก อบต. รับ อาจเข้าใจผิด พร้อมทบทวนคำสั่ง

สองตายายโวย! ถูก อบต. วังทอง ปักป้ายกล่าวหาบุกรุกที่สาธารณะ ทั้งที่มีโฉนดถูกต้อง – นายก อบต. รับ อาจเข้าใจผิด พร้อมทบทวนคำสั่ง

สุโขทัย – วันที่ 8 เมษายน 2568 สองตายายชาวบ้านตำบลวังใหญ่ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ร้องเรียนผ่านทีมข่าว “ข่าวชัดประเด็นจริง” หลังถูก องค์การบริหารส่วนตำบลวังทอง ปักป้ายบริเวณไร่ยาสูบว่า “เป็นพื้นที่ทางสาธารณะ” และมีการสั่งให้รื้อถอนพืชผล ทั้งที่ที่ดินดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์โฉนด น.ส.4 อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้ร้องทั้งสอง คือ นางอู๊ด พันธ์ศรี และ นายวิเชียร พันธ์ศรี เปิดเผยว่า ที่ดินจำนวน 5 แปลงของตนใช้ทำไร่ยาสูบมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี โดยมีโฉนดที่ดินถูกต้อง แต่กลับถูกหน่วยงานรัฐกล่าวหาว่ารุกล้ำที่สาธารณะ โดยอ้างอิงจาก “เอกสาร รว.๙” ซึ่งเป็นแผนที่รังวัดผ่านระบบโครงข่ายดาวเทียม ที่จัดทำโดยสำนักงานที่ดินสุโขทัย สาขาศรีสำโรง

แต่สิ่งที่สร้างข้อเคลือบแคลงและถูกตั้งคำถามจากชาวบ้าน คือ แนวเขตถนนที่ อบต. อ้างว่าเป็นทางสาธารณะในพื้นที่พิพาทนั้น ขยายกว้างออกจากเดิมอย่างผิดสังเกต โดยจากเดิมถนนที่ใช้งานทั่วไปมีความกว้างประมาณ 3–4 เมตร เมื่อเข้าสู่พื้นที่ของผู้ร้องทั้งสอง กลับขยายออกเป็น 12–15 เมตร คร่อมเข้ามาในที่ดินโฉนดของผู้ร้อง และเมื่อพ้นจากแนวโฉนด ถนนกลับแคบลงมาเหลือ 3–4 เมตรตามเดิมอีกครั้ง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถูกมองว่า อาจเข้าข่ายการเลือกปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

นายสุวรรณ บัวโรย บรรณาธิการข่าว “ข่าวชัดประเด็นจริง” ในฐานะผู้รับเรื่องร้องเรียนและติดตามคดี ได้ลงพื้นที่พร้อมทีมงาน และได้นำเอกสารหลักฐานของผู้ร้องไปหารือกับ นายประดิษฐ์ พลทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังทอง เพื่อขอคำชี้แจงถึงเหตุผลในการดำเนินการดังกล่าว

นายก อบต. ชี้แจงว่า ได้อาศัยแผนที่จากระบบดาวเทียมที่ได้รับจากสำนักงานที่ดินมาใช้กำหนดแนวเขตถนนสาธารณะ และเชื่อว่าดำเนินการตามหน้าที่อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับเอกสารโฉนดและข้อชี้แจงข้อกฎหมายจากผู้ร้องและทีมข่าว นายก อบต. ยอมรับว่า อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องกฎหมายที่ดิน และขอเวลา 15 วันในการทบทวนข้อเท็จจริงและคำสั่ง

ทั้งนี้ สองตายายเปิดเผยว่า กรณีนี้เป็นปัญหาที่คาราคาซังมานานกว่า 10 ปี โดยเคยร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานทั้งในระดับตำบล อำเภอ จังหวัด จนถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือความกระจ่างใด ๆ จนต้องตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือผ่านรายการ “ข่าวชัดประเด็นจริง” เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และช่วยเหลือทางคดีตามกระบวนการยุติธรรม

ทีมข่าวข่าวชัดประเด็นจริง ระบุว่า จะติดตามความคืบหน้าของกรณีนี้ต่อไป และหากไม่มีความคืบหน้าภายในระยะเวลาที่นายก อบต. รับปากไว้ ทีมกฎหมายและผู้ร้องอาจจำเป็นต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด

ข่าวโดย: ข่าวชัดประเด็นจริง
เรียบเรียง: สุวรรณ บัวโรย – บรรณาธิการข่าว

        

        Loading...