“อัจฉริยะ” ให้ปากคำเพิ่มเร่งรัดออกหมายจับ “ปฏิวัติ” กับบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาโครงการ สตง.
1 min read
“อัจฉริยะ” ให้ปากคำเพิ่มเร่งรัดออกหมายจับ “ปฏิวัติ” กับบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาโครงการ สตง. – จ่อแจ้งดีเอสไอดำเนินคดีผู้บริหารระดับสูง สตง.-คตง. และผู้เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด ในความผิด ม. 157
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารบริคณห์สนธิของ 3 บริษัทวิศวกรที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างตึก สตง. และเอกสารของสภาวิศวกร เข้าให้พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบริษัท พีเอ็นซิงค์โครไนซ์ จำกัด กับพวกบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาทั้ง 3 บริษัท ในความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
โดยนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่านายปฏิวัติได้ร่วมกับตำรวจยศพันตำรวจเอก ซึ่งเป็นหน้าห้องของประธาน คตง. ในการฮั้วประมูลให้บริษัทของนายปฏิวัติกับพวกได้รับงานที่ปรึกษาในลักษณะกิจการร่วมค้า ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติในการมาเป็นบริษัทที่ปรึกษา เพราะจากเดิมหนังสือบริคณห์สนธิไม่ได้มีการระบุว่าเป็นบริษัทที่ปรึกษา แต่นายปฏิวัติมีการไปยื่นขอแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิดังกล่าว หลังจากได้รับการว่าจ้างจากคณะกรรมการ สตง. และเซ็นสัญญาเป็นวิศวกรที่ปรึกษาให้กับโครงการ สตง. แล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 โดยได้เพิ่มเนื้อหาในหนังสือบริคณห์สนธิ ว่าเป็นบริษัทรับจ้างที่ปรึกษา รับกิจการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง ประกอบกิจการออกแบบวางแผนควบคุมงาน ประกอบกับนายปฏิวัติก็เป็นแค่สามัญวิศวกร ส่วนวิศวกรอีกคนของบริษัทเป็นแค่วิศวกรเครื่องกลระดับสามัญ ทั้งคู่ไม่ได้มีวุฒิโยธาใดๆ องค์ประกอบทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าบริษัทขาดคุณสมบัติในการเป็นที่ปรึกษา อีกทั้งบริษัท ไชน่าเรลเวย์ฯ ยังได้จ่ายเงินให้กับขบวนการนี้กว่า 100 ล้านบาท
ดังนั้นจึงจะมาให้ปากคำกับตำรวจ สน.บางซื่อ เพื่อเร่งรัดขอให้มีการออกหมายจับนายปฏิวัติกับพวกที่เป็นวิศวกรที่ปรึกษาทั้งหมด ในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ส่วนในวันพุธที่ 30 เมษายนนี้ ตนเองก็จะไปร้องทุกข์กับดีเอสไอให้ดำเนินคดีกับประธาน คตง. , ผู้ว่า สตง. ทุกคนตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับโครงการ คณะกรรมการคัดเลือก คณะกรรมการตรวจการจ้าง บริษัทผู้ว่าจ้างที่รับบริษัท พีเอ็นซิงค์โครไนซ์ จำกัด มาเป็นวิศวกรที่ปรึกษา ไปจนถึงคนที่จ่ายเงินให้กับบริษัท พีเอ็นซิงค์โครไนซ์ จำกัด ในความผิดตามมาตรา 157เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
