จันทร์. เม.ย. 28th, 2025

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ปทุมธานี นศ.ผู้ปกครอง กว่า 20 รายรวมตัวร้อง ตร.สคบ.หลังถูกเจ้าของหอพัก ทำร้ายยึดทรัพย์สินเอาเปรียบสารพัด

1 min read


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (25 เม.ย. 68) ที่ อาคาร 14 ห้องประชุมชั้น 2 มหาวิทยาลัยรังสิต ได้มีนักศึกษาพร้อมผู้ปกครอง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย จำนวน กว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิตและเจ้าหน้าที่ สคบ. กรณีที่กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันร้องทุกข์ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ที่ได้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ที่ได้เช่าพักอาศัยของหอพักและยังถูกเจ้าของหอยึดเอกสารหลักฐานทางราชการพร้อมกับทรัพย์สินอื่นๆ โดยไม่ยอมคืนให้เป็นจำนวนหลายราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้ยืดเยื้อมาเป็นเวลาหลายปีทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยร้องแจ้งความร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆแล้ว แต่ผ่านมาก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า วันนี้ผู้ปกครองและนักศึกษาจึงมารวมตัวกัน เพื่อจะขอดำเนินคดีกับเจ้าของหอให้ถึงที่สุด โดยมี พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต ได้อำนวยความสะดวกโดยตั้งชุดสอบสวน สืบสวน มารับเรื่องราวทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งคณะทำงานจาก สคบ.ก็มารับเรื่องดังกล่าวอีกด้วย

น.ส.ศิริพร (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ปกครองนักศึกษาคนหนึ่งที่เป็นผู้เสียหาย กล่าวเปิดเผยว่า หลานชายตนเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ถูกเจ้าของหอพักแห่งหนึ่ง ที่เจามาเข่าอยู่เพราะเห็นว่าอยู่ใกล้มหาลัยฯ ได้เอารัดเอาเปรียบและทำการรื้อค้นกระเป๋า ยึดเอกสารและทรัพย์สินไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 68 เวลาประมาณ3ทุ่มกว่า ขณะที่หลานชายของตนกลับจากต่างจังหวัดและเข้าไปที่หอพัก เพื่อเข้าห้องไปเอาเอกสารสำคัญในการผ่อนผันทหารและอุปกรณ์อื่นๆในการสอบ แต่พอหิ้วกระเป๋าลงมาจากห้อง ก็เจอกับป้าเจ้าของหอ พร้อมถามหลานตนว่า “จะย้ายออกแล้วเหรอ” หลานชายตนก็ตอบว่า “ใช่ครับ” ซึ่งก่อนหน้านี้ พี่สาวตนซึ่งเป็นแม่หลานชายเคยโทรไปแจ้งเจ้าของหอไว้แล้วว่าจะย้ายออก แต่เจ้าของหอก็พูดกลับมาว่า “จะออกได้ยังไง ไม่เห็นแจ้งอะไรเลย” จากนั้นเจ้าของหอก็โทรแจ้งลูกสาวของเขาให้มาตรวจห้อง ซึ่งหลานตนก็วางกระเป๋าไว้ที่ชั้นล่าง จากนั้นก็ขึ้นไปตรวจห้องกับลูกสาวเจ้าของหอ

แต่พอตรวจห้องเสร็จ แล้วเดินลงมาชั้นล่าง หลานตนก็เห็นเจ้าของหอกำลังรื้อกระเป๋าและหยิบของที่อยู่ในกระเป๋าไปไว้ในห้องตัวเอง ซึ่งลูกสาวของเจ้าของหอก็เห็น ซึ่งหลานตนก็งงว่า เจ้าของหอมีสิทธิ์อะไรมาค้นกระเป๋าแล้วยึดเอกสารราชการ ทั้งบัตรประชาชน ใบขับขี่ ไอแพดและอุปกรณ์การสอบไปทำไม พร้อมให้หลานตนโทรหาแม่เขาโดยบอกให้แม่ของหลานโอนเงินมา 15,000 บาทถึงจะคืนเอกสารให้ ตอนนั้นหลานตนก็กลัวไม่รู้จะทำยังไง จึงโทรหาตน หลังเกิดเหตุจึงไปแจ้งตำรวจ ก่อนที่ตำรวจสายตรวจ ได้เดินทางมาเพือไกล่เกลี่ยเจรจากับเจ้าของหอเพื่อขอให้คืนเอกสารและทรัพย์สินของหลานตน ปากทางเจ้าของหอไม่ยอมพร้อมกับกล่าวเพียงว่าหลานตนนั้นผิดสัญญาเช่า และถ้าใครเข้ามาก็จะโดนข้อหาบุกรุก หลังเจรจาไม่เป็นผลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงให้มาแจ้งความที่ สภ.ปากคลองรังสิต โดยหลานตนก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเมื่อช่วงเวลา 02.42 น. ของวันที่ 8 เม.ย. 68 กับ ร.ต.ท พงศธร แลเลิศ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต พร้อมกับลงโพสต์เตือนไปกับกลุ่มนักศึกษาและผู้ปกครองรายอื่นๆให้ระมัดระวังเกี่ยวกับการเช่าหอพักและป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบแบบหลานตน

น้าสาวของผู้แจ้ง ยังได้กล่าวเอีกว่า ต่อมา ลูกสาวเจ้าของหอก็ติดต่อมา โดยต้องการคำตอบแค่ว่า ตนเป็นคนโพสต์ร้องไปที่เพจต่างๆใช่ไหม เพราะตนรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องฟ้องแน่ แล้วเขาก็อธิบายว่า”สัญญาเช่านั้น 48 เดือน แต่ทางหลานตนออกก่อน ต้องเอาเงินมาจ่าย 15,000 บาท เป็นค่าปรับของเดือน เม.ย และเดือน พ.ค. รวมเป็นเงิน 9,000 บาท” ซึ่งพี่สาวตนก็ยังถามกลับว่า “แล้วที่จ่ายไปวันที่ 3 เม.ย.นั้นไม่นับเหรอ” เขาก็บอกว่า”ไม่เกี่ยว ที่จ่ายมาเป็นเดือนสุดท้ายถ้าอยู่ครบสัญญา คือ 4 ปี หรือ 48 เดือน” ซึ่งจริงๆแล้ว สัญญาเขียนไว้แค่่ไม่กี่เดือน แต่ตอนที่เขาเอามาให้เซ็นก็เอาปากกาขีดฆ่า เขียนใหม่เป็น 48 เดือน ซึ่งเจ้าของหอเขาก็พูดอ้างว่าเอาไป 48 เดือนเลย ถือเป็นโปรโมชั่นมีส่วนลด แต่พอเกิดเรื่อง ก็บอกหลานชายตนออกก่อนครบสัญญา จึงต้องจ่าย 15,000 บาท เพราะละเมิดสัญญา โดยเขาบอกว่าถือเป็นค่าปรับ ค่าล้างแอร์ ค่าซักผ้าม่าน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกว่าไม่ใช่ เพราะจริงๆ แล้วเรามีเงินมัดจำอยู่แล้ว 15,000 ตอนแรก แต่เขาไม่หักตรงนั้น เขาจะมาเก็บเพิ่ม โดยอ้างเพียงว่า หลานตนผิดสัญญาเอง

ทางด้าน นางนงลักษณ์ ชัยสิทธิ์ อายุ 56 ปี ผู้เสียหาย วันหนึ่ง ก็ได้กล่าวว่าตนมีลูกสาวและลูกชายก็ได้พักที่หอดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์นั้นก็คล้ายกัน กับ นักศึกษา รายล่าสุดที่เพิ่งโดน โดยเขาจะอ้างเกี่ยวกับเรื่องสัญญา ซึ่งจริงๆแล้วการอยู่หอพักของเขานั้น ตอนอยู่ครั้งแรกจะไม่ค่อยมีปัญหาแต่พออยู่ไปเขาจะสร้างความกดดันให้กับนักศึกษาที่เข้าไปอยู่จนทำให้ทุกคนไม่สามารถที่จะอยู่ต่อได้พอมีการออกก็จะถูกทำร้ายบ้างถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวบ้างแล้วก็ยึดทรัพย์สินทุกอย่างถ้าไม่นำเงินไปให้เขาเสียค่าปรับต่างๆ ซึ่งลูกสาวตนได้ถูกตัดขังไว้จนสุขภาพจิตแทบจะเสียหวาดผวากลัวไปทุกอย่าง ส่วนลูกชายตนนั้นก็ถูก เจ้าของหอและ ลูกน้องมาล็อคประตูไม่ให้นำรถยนต์ออก ซึ่งการกระทำแบบนี้ถือว่าเป็นการที่เอาเปรียบกับ นักศึกษาผู้เช่า จำนวนมาก

เช่นเดียวกับนายมาโนช บุญมา อายุ 59 ปี ก็ได้กล่าวเช่นกันว่า ลูกสาว ตนก็มาเช่าที่หอแห่งนี้ก่อนที่จะ ถูกสร้างความกดดันโดยได้ทำสัญญาเช่า 48 เดือนก็จริงแต่พอลูกสาวตนอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือนทางเจ้าของหอก็จะโทรมาแจ้งผู้ปกครองว่าลูกสาวตนนั้นมีผู้ชายเข้าไปหาแล้วไปเปิดห้องโดยพละการทำให้ลูกสาวตนนั้นเกิดความอึดอัดใจและไม่เป็นตัวของตัวเอง ก่อนที่ จะขอยกเลิก ไม่สามารถที่จะอยู่หอแห่งนี้ต่อไปได้ทำให้เจ้าของหอต้อง เรียกมาทำการปรับเพราะถือว่าผิดสัญญาเงื่อนไขต่างๆพร้อมกับยึดทรัพย์สินซึ่งใช้ไฟฟ้าทุกอย่างที่ตนซื้อให้ลูกสาวไม่ว่าจะเป็นทีวีตู้เย็นต่อไมโครเวฟและ อื่นๆอีกจำนวนหลายรายการ ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการที่เอารัดเอาเปรียบให้กับผู้เช่าตนเคยทำเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า พร้อมวันนี้ในวันที่ลูกสาวตน ไม่อยากอยู่ที่หอดังกล่าวก็ยังถูกทำร้ายโดยการถูกเจ้าของหอและ ลูกน้องซึ่งเป็นชาวต่างชาติมาฉุดกระชากกระเป๋าจนหกล้มได้รับบาดเจ็บ

ด้าน ดร.นวรัตน์ ก๋งเม่ง ผอ.สนง.ศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์ ม.รังสิต กะว่าวันนี้ทางมหาลัยนั้นก็ถือว่าเป็นตัวกลางและได้รับการร้องเรียนจากนักศึกษาและผู้ปกครองถึงกรณีเจ้าของหอพัก ดังกล่าวนี้ ได้มีการ รัดเอาเปรียบ กับผู้เช่า ซึ่งทางด้านมหาวิทยาลัยเองนั้น ก็ได้มีการประสานงาน ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้ง ได้แจ้งไปยัง ผู้ปกครองและนักศึกษาเกี่ยวกับการเช่าหอพักซึ่งปกติแล้ว ทางมหาวิทยาลัยก็จะมีทั้งกลุ่มหอพักต่างๆที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นเป็นภาคีเครือข่าย ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ส่วนหอพักแห่งนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มภาคีเครือข่าย แต่อย่างไรก็ตามทางมหาลัยก็พร้อมที่จะให้กวางช่วยเหลือให้คำปรึกษาแนะนำกับผู้เสียหายอีกด้วย

ทางด้าน พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภปากคลองรังสิต กล่าวเปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มีผู้ปกครองและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ เจ้าของหอพักหรือตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการทำร้าย ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและได้รื้อค้นนำทรัพย์สินเอกสารหลักฐานต่างๆของผู้แจ้งไว้ เบื้องต้นเคยมีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าของหอแล้วแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือและไม่ยอมคืนของให้ผู้แจ้ง โดยอ้างว่าผู้แจ้งผิดสัญญาเช่า ดังนั้นจะได้มีการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อทางพนักงานสอบสวนก็จะได้ออกหมายเรียกเจ้าของหอพักมาให้ปากคำและให้นำทรัพย์สินของผู้เสียหายมาคืน ซึ่งถ้าหากยังไม่นำมาคืนก็ถือว่าส่อเจตนา นำทรัพย์นั้นไป จะถือเป็นคดีอาญา ดังนั้นทางพนักงานสอบสวน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม ภาพ/ข่าว

Loading…

ใส่ความเห็น

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.