อันตราย!! โจ๋ชัก “ว่าวแอก” เชือกหย่อนขวางถนน เฉือนคอสาวขับจยย. หวิดคอขาด (มีคลิป)
1 min readหญิงวัย 41 ปีรอดคอขาดหวุดหวิด หลังจากวัยรุ่นในหมู่บ้านเล่นว่าวแอกใหญ่ แล้วเชือกหย่อนขวางถนน แล้วเฉือนคอสาวระหว่างขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านช่วงหัวค่ำ โชคดีสามีซ้อนท้ายเอามือปัดออกก่อน เผยเชือกไนล่อนว่าวเส้นใหญ่อาจถึงเสียชีวิตถ้าขับรถเร็ว วอนเล่นระวัง
วันที่ 16 พ.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านถูกเชือกว่าวบาดคอได้รับบาดเจ็บ ที่ อ. ปะคำ จ. บุรีรัมย์ และอยากออกมาแจ้งเตือนคนเล่นว่าว ซึ่งเริ่มถึงฤดูเล่นแล้ว ให้ระวังการเล่นต้องคำนึกรอบด้าน โดยเฉพาะว่าวแอกอีสาน ที่มักนิยมปล่อยว่าวติดลมบนข้ามวันข้ามคืน
จากการตรวจสอบที่ ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ พบนางพวง วัฒนกูล อายุ 41 เลขที่ 87 ห มู่ 10 ต.โคกมะม่วง อาชีพชาวสวน โชว์บาดแผลบริเวณลำคอ ที่ถูกเชือกไนล่อนสำหรับเล่นว่าวแอก บาดคอ จนเป็นแผลลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร ยาวประมาณ 20 ซม.
นางพวง เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น.ตนและสามี ขี่มอเตอร์ไซค์มาจากบ้านเพื่อนจะกลับบ้านพัก ระหว่างทางเป็นถนนซอยในหมู่บ้าน ตนซึ่งเป็นคนขี่รถก็ขับมาตามถนนปกติ ขับมาด้วยความเร็วประมาณ 30-40 กม./ชม. กระทั่งรู้สึกตัวว่ามีสิ่งของคล้ายเชือกมาโดนคอด้านหน้าแต่ไม่เจ็บมีความรู้สึกแค่ชาๆ ตนร้องออกมา ทันใดนั้นสามีที่ซ้อนท้ายได้เอามือปัดออก เชือกเส้นดังกล่าวก็เด้งลอยขึ้นฟ้า ส่วนรถตนก็เสียหลักล้มลงบนถนน หันไปมองข้างทางก็พบว่ามีวัยรุ่นกำลังดึงเชือกว่าวอยู่ข้างทางเมื่อมาถึงบ้านส่องไฟดูพบว่าคอเป็นแผลฉกรรจ์ และมารู้สึกปวดแสบปวดร้อนตามมา
ต่อมาสามีไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบ เชือกว่าวผูกไว้กับต้นไม้ข้างทาง คาดว่าช่วงที่ตนขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาเป็นจังหวะที่ลมไม่แรง ทำให้แรงลมไม่สามารถดึงว่าวให้ขึ้นสูงได้ จึงทำให้เชือกว่าวหย่อนลงแล้วมาขวางถนน โชคดีที่ตนขับรถไม่เร็ว ซึ่งหากมาด้วยความเร็วคาดว่าอาจถึงชีวิต เพราะเชือกที่ผูกติดกับว่าวจะมีลักษณะตึง
สำหรับการเล่นว่าว จังหวัดบุรีรัมย์ ชาวบ้านจะนิยมเล่นว่าวแอก,ว่าวธนู และว่าวอีกหลายชนิด แต่ละปีจะมีการจัดงานประเพณี”มหกรรมว่าวอีสาน”ทุกปี ซึ่งตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปจะมีชาวบ้านออกมาทำว่าวขนาดใหญ่แล้วปล่อยเล่นต้านลม ตามชนบทมักจะปล่อยว่าวขึ้นตอนเย็น แล้วปล่อยไว้ทั้งคืนเพื่อฟังเสียงแอกที่ติดบนหัวว่าว แล้วมาเก็บว่าวในตอนเช้า ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้คาดว่าช่วงที่สายว่าวหย่อนมาเพราะลมบนมีน้อยทำให้เชือกหย่อนลงมาจนเป็นเหตุดังกล่าว
Loading…