สุรินทร์ เข้มชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจคัดกรองสกัดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (มีคลิป)

สุรินทร์ เข้มชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจคัดกรองสกัดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ อีกด่านผ่านที่ใกล้นครวัด-นครธม มรดกโลก ที่นักท่องเที่ยวจีนและทั่วโลกเข้าไปเที่ยว บางส่วนถือโอกาสการใช้ชายแดนช่องจอมผ่านเข้ามาเที่ยวและกลับประเทศ แม้จะมีจำนวนน้อย แต่มีความเสี่ยง

วันที่ (25 ม.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวานนี้ สำนักงานข่าวจีนรายงาน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหู ประเทศจีน ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อแล้ว เฉพาะในประเทศจีนกว่า 830 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็นกว่า 25 ราย ล่าสุดมีรายงานอัปเดตยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 41 รายแล้ว ติดเชื้อกว่า 1,287 คน ด้านทางการจีนได้ปิดเมืองในมณฑลหูเป่ยได้มีการไปแล้ว 13 เมือง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทางการจีนได้เร่งระดมรถแบ็คโฮเกือบ 100 คัน มาเกลี่ยจัดที่ดินเพื่อสร้างโรงพยาบาลพิเศษขึ้นที่ เมืองอู่ฮั่น บริเวณใกล้ทะเลสาบจืออิน โดยโรงพยาบาลนี้มีแผนจะรองรับผู้ป่วยจากโรคปอดอักเสบ ไวรัสโคโรนา กินขนาดพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร อิงรูปแบบจาก โรงพยาบาลปักกิ่ง โดยเป้าหมายมีกำหนดการเปิดใช้งานให้ทันก่อนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ล่าสุดพบว่าไวรัสดังกล่าวได้ติดต่อแพร่ระบาดไปแล้วในหลายประเทศ ทำให้แต่ละประเทศต้องหามาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเร่งด่วน

โดยเฉพาะ ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องของไทยได้มีการกำชับ การตรวจสอบบุคคลประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวต่างประเทศ และชาวจีน ที่เดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะเดินทาง มาจากเมืองอู่ฮั่น เข้ามายังประเทศไทย ให้มีการตรวจสอบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะด่านผ่านแดน กับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย ที่มีชาวจีนเดินทาง ผ่านเข้า และออก เพื่อไปประกอบธุรกิจ และท่องเที่ยว

ซึ่งด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีพื้นที่ ติดกับ จังหวัดอุดรมีชัย ของประเทศกัมพูชา และมีเส้นทางเชื่อมต่อที่ไม่ไกลกับจังหวัดเสียมเรียบ หรือ เสียมราฐ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกที่สำคัญ คือนครวัด-นครธม และมักจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีน ชาวต่างชาติ รวมทั้งไทยและ ชาวกัมพูชา เดินทางเข้าไปเที่ยวจำนวนมาก และเดินทางกลับมายังประเทศไทย ซึ่งบางส่วนใช้ช่องทางจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ด้าน จ.สุรินทร์ แห่งนี้ ผ่านเข้ามาเที่ยว แม้จะมีจำนวนไม่มากต่อวัน แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น จนท.ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง หลังจาก พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้สั่งการกำชับให้ตรวจคนเข้าเมือง ทุกจังหวัด ทุกจุดตรวจ ด่านตรวจทั่วประเทศ ที่มีอำนาจในการตรวจคนเข้าเมือง เข้า-ออก ราชอาณาจักร โดยเข้มงวดกวดขันในการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่มาจากประเทศเป้าหมาย หรือสัญชาติเป้าหมาย โดยได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการร่วมตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกัน การแพร่ระบาดของโรค

ซึ่ง ตม.จว.สุรินทร์ โดย พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย รรท.ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ ได้สั่งการให้ จนท.จุดตรวจผ่านแดนถาวรช่องจอม ทำการตรวจร่วมกับ แพทย์ประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศช่องจอม ร่วมกันตรวจและสกัดกั้นบุคคลที่อาจจะต้องสงสัย เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัด ด้วยการใช้เครื่องเทอร์โมมิเตอร์อินฟราเรด วัดไข้ในเบื้องต้น หากพบนักท่องเที่ยวที่มีไข้สูง ก็จะทำการกักตัว ตรวจสอบประวัติก่อน ว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ และหากพบนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติและชาวจีนที่ผ่านเข้ามา และเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ก็จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเช่นกัน

พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้ จนท.ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดที่มีความเสี่ยงต่อการได้พบปะกับชาวต่างชาติ หรือบุคคลเป้าหมาย ให้ใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งสามารถติดต่อได้โดยตรงทางเดินหายใจและอากาศ เนื่องจาก จนท. ตรวจคนเข้าเมือง ต้องปฏิบัติหน้าที่ตรวจหนังสือเดินทาง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติอยู่ตลอดเวลา รวมทั้ง พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย รรท.ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ ได้ให้แนวทางป้องกันให้ จนท. ตรวจคนเข้าเมือง ดังนี้ เมื่อพบว่าตนเองมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ ควรพบแพทย์ ออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโคและหากมีข้อสงสัย เพิ่มเติมเกี่ยกับโรค สอบถามได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422 หรือหากต้องการทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมือง สารมารถติดต่อได้ที่ 1178 (สตม.) หรือ ทางเว็บไซต์ สนง.ตรวจคนเข้าเมือง ได้ทันที