ปราจีนบุรี จับแล้ว!! จระเข้โผล่อาบแดดคลองชลประทาน
1 min readจากกรณี นายอายุวัฒน์ อนุตรอริยกุล ประมงอำเภอกบินทร์บุรี ได้รับแจ้งจากนายพงษ์ชัย สงวนศิลป์ สารวัตรกำนันตำบลกบินทร์ ว่ามีชาวบ้านพบจระเข้ขนาดใหญ่นอนอาบแดดอยู่ริมคลองชลประทานบ้านโคกป่าแพง หลังวัดโคกป่าแพง ม. 7 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งรีบรุดตรวจสอบทันทีเกรงจระเข้อาจจะทำร้ายชาวบ้านได้
พบคลองชลประทานดังกล่าวมีฝายน้ำล้น และคันดินกลั้นไว้เป็นช่วงๆ ส่วนที่พบจระเข้นั้นมีความยาวประมาณ 100 เมตร กว้าง 10 เมตร น้ำลึกประมาณ 1-2 เมตร นอกจากนี้ยังพบร่องรอยจระเข้ที่นอนอยู่อย่างเห็นได้ชัดว่าเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 2-3 เมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัม ส่วนตรงที่พบจระเข้หลังจากที่ชาวบ้านทราบข่าวต่างแห่กันมาดูพร้อมนำแหมาดักรอทอดตอนที่จระเข้โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ จึงทำให้จระเข้ตื่นไม่กล้าโผล่ขึ้นจากน้ำ ล่าสุดครั้งสุดท้ายเห็นจระเข้โผล่ให้เห็นเมื่อเวลา 17.00 น.
ต่อมานายอายุวัฒน์ อนุตรอริยกุล ประมงอำเภอกบินทร์ ได้ประสานและขอความช่วยเหลือจากชุด “ไกรทอง”มือปราบจระเข้จากหน่วยป้องกันฯเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สระบุรี มาช่วยปราบ จากนั้นชุด “ไกรทอง”ได้รีบเดินทางมายังสถานที่พบจระเข้เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.เมื่อมาถึงไม่รอช้าจึงให้ชาวบ้านที่มารอดูห้ามส่องไฟฉายเกรงว่าจระเข้จะหลบและไม่ขึ้นจากน้ำ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุด “ไกรทอง”ได้นำไฟส่องบริเวณริมคลองชลประทานเพื่อหาดูดวงตาของจระเข้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ไม่พบดวงตาของจระเข้แต่อย่างใด
จากนั้นจึงได้นำตาข่ายมากั้นระหว่างคลองเพื่อกำชับพื้นที่ให้แคบลง ก่อนที่นำเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพร้อมตระแกรงเหล็กที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แหย่ลงในน้ำเพื่อหาจระเข้ว่าหลบอยู่ตรงไหน การไล่ล่าจระเข้ก็เริ่มขึ้นท่ามกลางชาวบ้านรอลุ้นว่าจะเจอจระเข้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ชุด “ไกรทอง”วนหาอยู่ 2 รอบไม่พบวี่แววของเจ้าจระเข้แต่อย่างใด สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านยิ่งนัก เพราะตอนพบจระเข้ครั้งสุดท้ายมีชาวบ้านเฝ้าดูว่าจะหลบหนีไปทางไปได้ การค้นค้นหายังไม่พบจึงยุติการค้นหาเมื่อเวลา 23.00 น.
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 63 จากชุด “ไกรทอง”มือปราบจระเข้จากหน่วยป้องกันฯเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สระบุรี ได้ทำการล่าจระเข้ตัวกล่าว และพบจระเข้โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ จึงได้ทำการจับด้วยไฟฟ้าก่อนเจ้าจระเข้จะสิ้นฤทธิ์และนำขึ้นจากฝั่ง พบว่าจระเข้ตัวดังกล่าวมีขนาดใหญ่ และสามารถกัดและทำร้ายได้ จึงทำให้ชาวบ้านโล่งอกโล่งใจที่จับได้ ส่วนจระเข้ที่เหลือคาดว่าน่าจะอยู่ในป่ายูคาลิปตัส ที่อยู่ข้างคลอง ส่วนจระเข้ได้นำไปปฐมพยาบาลที่ประมงกบิทร์บุรี ก่อนที่จะไปปล่อยสู่แหล่งธรรมชาติต่อไป
ข่าว-ภาพ : สายชล หนูแดง /ปราจีนบุรี