ครู ร.ร.โสต เร่งทำหน้ากากอนามัยแจกเด็กพิการ 300 คน ป้องกันโควิด 19 (มีคลิป)
1 min readครู ร.ร.โสต เร่งทำหน้ากากอนามัยแจกเด็กพิการ 300 คน ป้องกันโควิด 19 ขณะที่ผู้ว่าโพสต์ป้ายข้อความที่ติดหน้าบ้านประชาชนหลายหลัง ระบุว่า บ้านนี้มีคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและพื้นที่เสี่ยง ถูกกักตัวเองอยู่ ถือเป็นมาตรการดีๆเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย ล่าสุดพบ 6 รายเป็นโควิด
วันนี้ (28 มี.ค. 63) ที่โรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ นางอาภรณ์ มุ่งสุข รอง ผอ.โรงเรียนโสตศึกษา จ.สุรินทร์ นำคณะครูและบุคลากรของโรงเรียน เร่งร่วมมือกัน ตัดเย็บหน้ากากอนามัย เพื่อเตรียมไว้แจกให้กับเด็กๆของโรงเรียนที่เป็นเด็กพิการหูหนวก บกพร่องทางการได้ยิน กว่า 300 คน ได้สวมใส่เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงเปิดภาคเรียน หลังจากไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักขยายวงกว้างมากขึ้นตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้เพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กๆนักเรียนของโรงเรียน แม้จะยังไม่ทราบกำหนดวันเปิดภาคเรียนก็ตาม อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ และรอให้กระทรวงศึกษาธิการประกาศเปิดภาคเรียนอีกครั้งต่อไป
ขณะที่ จ.สุรินทร์ พบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย รวมทั้งหมด 6 รายแล้ว ซึ่งรายที่ 6 เป็นหญิง อายุ 26 ปี เข้ารับการรักษาพยาบาล เมื่อวันที่ 25 มี.ค.63 ปัจจัยเสี่ยงผู้ป่วยเป็นพนักงานร้านนวด สปาและตกแต่งเล็บ ที่ ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
นอกจากนี้แล้วยังพบว่า เฟสบุ๊คส่วนตัวของ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.สุรินทร์ ก็ได้มีการโพสต์อัพเดทสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ อย่างต่อเนื่องทุกวัน รวมทั้งนโยบายขอความร่วมมือประชาชนให้หยุดอยู่บ้านเพื่อความปลอดภัยต่างๆ ขณะที่ล่าสุดพบว่ามีการโพสต์ภาพป้ายที่ระบุข้อมูลของผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ต่างจังหวัดและพื้นที่เสี่ยต่างๆ และจะต้องกักตัวอยู่บ้านตามที่กำหนด โดยมีวันเวลาและพื้นที่ๆบุคคลในบ้านเดินทางมา และต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ซึ่งป้ายดังกล่าวถูกติดไว้บริเวณหน้าบ้านของบุคคลนั้นๆอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนทราบ ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการหนึ่งที่น่าสนใจและได้ผล ทำให้ประชาชนระมัดระวังตัวกันมากขึ้น จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
โดย ผวจ.ยังเขียนข้อความระบุประกอบภาพดังกล่าวอีกว่า”อยู่บ้านดีที่สุดครับ ตอนนี้มีข่าวหลายจังหวัด ปิดหมู่บ้าน เพราะมีคนติดเชื้อ คนเสี่ยงติดเชื้อ ตระเวณใช้ชีวิตแบบประมาทไปตามสถานที่ต่าง ๆ บอกลูกบอกหลานนะครับ การสู้กับ Covid-19 ที่ดีที่สุดคือ การหยุดอยู่กับที่ ไม่เสี่ยงออกไปหาเชื้อใส่ตัว เพราะมั่นใจได้อย่างไรว่าที่ตัวเองไป ไม่มีเชื้อปนเปื้อนตกหล่นอยู่ โดยเฉพาะพวกมาจากต่างท้องที่ สุรินทร์ยังไม่มีเชื้อให้ติดนะครับ ที่มีคนติดเชื้อเพราะติดมาจากที่อื่นแล้วกลับคืนรังทั้งนั้นครับ ถ้าเข้ามาบ้านเกิดทั้งที อย่าเอาเชื้อมาฝากญาติพี่น้องเลยนะครับ อย่าบอกว่าไม่มีไข้จะไปไหนก็ได้ โรคนี้ไม่มีไข้ก็แพร่เชื้อได้ครับ หยุดอยู่กับที่ อยู่บ้านสัก 14 วันนะครับ ลูกหลานคนสุรินทร์ต้องพูดกันรู้เรื่องครับ อย่าให้ต้องใช้ไม้แข็งกันเลยครับ หลายพื้นที่มีตัวอย่างดีดี ที่เอามาให้ดูกันนี่แหละครับ ขอชื่นชมและขอบคุณจากใจจริงครับ”