ข่าวชัด : ตำรวจเพื่อประชาชน พ.ค.63
1 min readข่าวชัด ตำรวจเพื่อประชาชน……..ตำรวจต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ห้ามขาด ห้ามลา ยกเว้นติดเชื้อไวรัส โควิด 19 พักตามกำหนด 14 วัน ตำรวจคือด่านแรก ที่ต้องปะหน้ากับประชาชน จนมีตำรวจติดเชื้อไวรัส โควิด 19 หลายนาย เช่นกัน…………ถ้าเอาอยู่ รักษาหายเป็นปกติ ต้องมาปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ เข้าเวรปกติครับผม มองเห็นแล้วตำรวจยุคนี้ หน้าสวมหน้ากากอนามัย มือถือเจลคอยพ่น คอยฉีดผู้คน ให้ห่างไกลไวรัส โควิด 19 แม้มีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นเนืองๆ มือก็ถือปืนไม่ลดละ เพราะหน้าที่บังคับ หากไม่ปฏิบัติ ตามระบุ 157……..นานๆตำรวจทางหลวงจะสร้างชื่อเสียงงดงามหรือไม่ ต้องรอดูกระบวนการยุติธรรมตัดสินคดี พนักงานบริษัทน้ำมันนำเงินเข้าประเทศ โดยไม่แจ้งกรมศุลกากร ก่อนนำเข้า เรื่องนี้ต้องดูที่เจตนา ใครผิด ใครถูกว่ากันไปตามขั้นตอนศาลสถิตย์ยุติธรรม…….อีกไม่นาน จะมีการเปลี่ยนแปลงใน สตช.หรือไม่ เพราะ ผบ.ตร.และ รอง ผบ.ตร.คนปัจจุบัน จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน ศกนี้ จนมีการมองไปว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ บุตรชาย พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจในยุคหนึ่ง ใครจะเสียบตำแหน่ง ผบ.ตร. คอยชม
……………..ในยุคที่บ้านเมืองเต็มไปด้วย เชื้อไวรัส โควิด 19 มีคดีอาชญากรรมเกิดขึ้นเนืองๆ ตำรวจก็ไม่หวั่น แม้วันมามาก ไวรัส โควิด 19 ต้องปราบ มิจฉาชีพ โจรผู้ร้ายต้องจับ วางมือไม่ได้ ไวรัส โควิด 19 เต็มเมือง โจรผู้ร้ายเต็มบ้านเช่นเดิม ชีวิตคนไทยวันนี้…………..ตำรวจก็มีชีวิตเช่นกัน ป้องกันหน้าโควิด 19 หลังโจร เมื่อเป็นเช่นนี้ เราเองต้องป้องกันตนเองให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ขอให้รอดติดเชื้อไปวันๆก็พอแล้ว……!…..เพราะ เชื้อไวรัส โควิด 19 ใครติดแล้ว ส่วนใหญ่นั้นสะสมในร่างกาย มีส่วนน้อยเท่านั้นที่ออกจากสารคัดหลั่งจากคนสู่คน ที่อยู่ใกล้ชิดกัน ดังนั้นควรอยู่ห่างกัน 1-2 เมตร เหมาะสมที่สุด ขยันทำงาน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ออกตรวจตราด่านคัดกรองทุกท้องที่นครบาล จนสื่อมวลชนต้องชื่นชมในความจริงจังในหน้าที่มาตลอด ต้องขอตีมือเชียร์
……………….ส่วนที่ภาค 1 ผบช.ภ.1 สั่งย้าย 5 เสือ สภ.ที่กรมการปกครองและตำรวจ บูรณาการจับบ่อนการพนันเด้งเข้ากรุ ป่านนี้ 5 เสือนอนหลับฝันร้ายไประยะหนึ่ง จนกว่ามีคำสั่งเปลี่ยนแปลง นี่คือการเอาจริงของ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ตำรวจที่ทำงานเสมอต้น เสมอปลาย จนได้รับความชื่นชมมายาวนาน พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 นั้นเป็นพื้นที่ความมั่นคงส่วนหน้า ต้องมีนายตำรวจทำงานในเชิงรุก รู้เขารู้เรา ………………..ยิ่งในปัจจุบัน มีพรก.ฉุกเฉิน และเคอร์ฟิวเช่นนี้ สตช.ยิ่งต้องเพิ่มมาตรการเข้มตามลำดับ ……………… โดยเฉพาะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้นเช่นกัน ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย สตช.
……………..ชัดเจน พ.ต.อ.ธีรุตม์ เทวัญมังคละวัชร์ รอง ผบก.ตำรวจสากล ผู้ช่วยทูตตำรวจประจำประเทศเมียนมา อดีตผู้ใต้บังคับบัญชา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล อดีต รอง ผบ.ตร. ตำรวจต้องสืบสวนฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม ทุกอย่างรอความชัดเจนมากที่สุด…………….เอาอีกแล้ว มิจฉาชีพ อ้างเป็นบุคลากรทางการแพทย์ รพ.ตำรวจ หลอกขายหน้ากากอนามัย ไม่ได้มาตรฐาน เสียเงิน 332,000 บาท งานนี้ พตอ.ปัญญา การุณพงษ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ต้องทำความจริงให้ปรากฏ………..ส่วนที่นี่ พตต.จุมพล ทฤษฏีสุข สว.สภ.เมืองปราจีนบุรี สอบปากคำนาย เกียรติกร ภาคเพียรศิลป์ อดีต สส.ได้รับโทรศัพท์ข่มขู่ชีวิต สามารถระบุตัวผู้ข่มขู่ได้ อยู่สมุทรปราการ รอสอบสวนต่อไป……………… ดราม่า เมื่อสัตวแพทย์ ฝ่าเคอร์ฟิว จนต้องรับผิด ผมผิดจริงครับ จบ…………….อุบัติเหตุหรือเจตนา ผู้ใหญ่บ้านยิงพระนักพัฒนาดับกลางดึก เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ต้องสอบสวนให้กระจ่างชัด เพราะอดีตทราบว่าบุคคลทั้งสองเคยมีความขัดแย้งกันหรือไม่
…………………การละเมิด พรก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว มีให้เห็นอยู่ทุกวัน พตอ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย พตท.อภิวิทย์ แจ่มแจ้ง สวป. และนาย ศิริพงษ์ กลัดเจริญ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และกำลังอส.เข้าตรวจสอบสถานบริการ ลักลอบเปิดบริการ พบนาย ธนพัฒน์ ตันวรชัยเจริญ และกลุ่มวัยรุ่น 21 คน มั่วสุมดื่มสุรา และยาเสพติด พบในตัวนาย วรทัต เจษฎาลักษณ์ อายุ 30 ปี จากนั้นควบคุมตัวบุคคลทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมเบื้องต้น มีความผิดในมาตรา 9 ของ พรก.ฉุกเฉิน และสั่งปิดสถานบริการแห่งนี้ เป็นเวลา 5 ปี………
แม้วัดก็ไม่เว้น สองผัวเมียโจร งัดตู้บริจาคของวัดเตย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้เงินไปกว่า 5 หมื่นบาท ตำรวจกำลังสืบสวนจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป
……………น.ส.ตันหยง คงสุขกาย อายุ 20 ปีเข้าร้องทุกข์แจ้งความต่อ พตท.ศิวกร จันทะเมนชัย สว.สภ.เมืองชลบุรี โดยระบุว่าถูกนาย ณรงค์ ชูกลั่น อายุ 28 ปี ใช้มือชกเข้าเบ้าตาขวาจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนและนาย ณรงค์ เป็นสามี ภรรยากัน แต่มีปากเสียงทะเลาะกัน สามีเข้าใจว่าตน มีปากเสียงกับแม่สามีบ่อยครั้ง จนเกิดปัญหา ถึงขั้นถูกทำร้ายดังกล่าว ซึ่งตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว จะตามตัว นาย ณรงค์ สามีมาสอบปากคำต่อไป
ติดตามข่าวสารบ้านเมือง ได้จากข่าวชัด ออกนอกบ้านอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยเสมอ ป้องกันตนเอง และห่างไกล โควิด 19 สวัสดี