ชลบุรี ครอบครัวสุดรันทด ท้อแท้ในชีวิต หลังจากกู้เงินมาจะไปขายของ แต่โดนพิษโควิด – 19 รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว ออกช่วงกลางคืนไม่ได้ จะพากันไปโดดน้ำตาย วอนสังคมให้การช่วยเหลือ (มีคลิป)

เมี่อเวลา11.00น.วันที่18เม.ย.2563ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปบ้านเลขที่ 8/24 หมู่ 1 ตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งชาวบ้าน มีครอบครัวที่ยากจน ที่ประสบกับปัญหาพิษโควิดเล่นงาน ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว เอาไว้ซื้อข้าวสารหุง ได้แต่รอเพื่อนบ้านเอาข้าวกับข้าวมาให้ และรอการเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปวันๆ โดยไม่ได้ลงใช้สิทธิรับเงิน 5,000 บาท จากที่ไม่รู้ในเรื่องโลกโซเชี่ยล นางนวลศรี สุริยะพันธ์ อายุ 49 ปี และ นางไพรสน สุริยะพันธ์ อายุ 56 ปี ซึ่งอยู่กับแม่ คือนางหอมหวล พิมาย อายุ 76 ปี ได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเก่า สภาพผุพัง หวังมีกินมีใช้ โดยการไปกู้เงินมา 4,000 บาท ขายส้มตำ ยำใส้กรอก ในช่วงกลางคืน แต่ก็พบกับทุนหายกำไรไม่มี เป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว เพราะมีการประกาศเคอร์ฟิวส์ ออกไปขายไม่ได้ ทำให้ของต้องเน่าเสีย

ซึ่งทางผู้สื่อข่าว กลุ่มเพื่อนข่าว สายเจาะ อำเภอบ้านบึง และกู้ภัยศีลธรรม สมาคมบ้านบึง ทราบเรื่อง ได้นำของที่จำเป็น อาทิ ข้าวสารอาหารแห้ง ปลากระป๋อง แล้วแมทปิดปาก เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

จากสอบถามนางนวลสี เล่าทั้งน้ำตา ว่า รู้สึกท้อแท้ในชีวิต ได้ไปกู้เงินมา 4,000 บาท เพื่อมาลงทุน ซื้อของขาย ช่วงตอนกลางคืน ไปเจอกับด่านตรวจ โดนไล่ให้เข้าบ้านเพราะเป็นเวลาช่วงเคอร์ฟิว จึงไม่ได้ขายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้ของที่ซื้อมาเน่าเสียหมด เงินที่กู้ก็ไม่ได้เอาไปใช้นี้เขา และไม่ได้มีการลงใช้สิทธิรับเงิน 5,000 บาท เพราะคิดว่าไม่มีสิทธิ์ อีกทั้งยังไม่รู้เกี่ยวกับโลกโซเชี่ยวอีกด้วย น้องสาวได้มาชวน ให้ไปกระโดดน้ำตายพร้อมกัน แต่ตนบอกว่า ให้เอ็งอยู่ดูแลแม่เดี๋ยวพี่จะไปคนเดียว เนื่องจากไม่ต้องการอยู่เป็นภาระหลายคน คิดว่า หากอยู่กันแค่สองคน จะมีคนมาดูแลง่ายขึ้น

ด้านนางหอมหวล ผู้เป็นแม่ เผยว่า รู้สึกเสียใจ ที่มารู้ว่า ลูกสาวสองคนจะไปโดดน้ำตาย ชีวิตครอบครัวตนลำบากมาก ไม่มีเงิน ซื้อข้าวสารมาหุง หากลูกสาวหนีไปตายจริง ตนก็คงต้องอยู่คนเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะแก่มากแล้ว ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ จึงอยากวอนผู้ใจบุญ ผู้มีจิตศรัทธา ให้การช่วยเหลือ

ภาพ/ข่าว แจ๊ค ทีวารีเจริญ ชลบุรี