นักเรียน รร.ขนาดเล็ก ในจ.สิงห์บุรี เรียนรู้จาก “ครูตู้” อย่างคุ้นเคย

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม 2563 ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ศึกษาธิการจังหวัดสิงห์บุรี , ผอ.วิทยาลัยเทคนิค , ผอ.สำนักงาน กศน. , ผอ.ศูนย์การศึกษาพิเศษ และรอง ผอ.สพม.5 ลงพื้นที่เยี่ยมชมการเรียนรู้ที่บ้านของนักเรียน โรงเรียนวัดสิงห์ และโรงเรียนวัดสาธุการาม ตั้งอยู่ที่ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ในยามปกติทั้งสองโรงเรียนเป็นโรงเรียนปลายทางที่ใช้ครูตู้หรือการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) โดยโรงเรียนวัดสิงห์ ใช้สื่อครูตู้ ประมาณ 80% เนื่องจากบางวิชา มีครูตรงเอก จึงทำการสอนเอง ได้คะแนนเฉลี่ย การสอบ O-NET ปี 2562 รวมทั้ง 4 วิชา(ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ) 40.48 คะแนน เป็นลำดับที่ 11 และ โรงเรียนวัดสาธุการาม ใช้สื่อครูตู้ครบทุกวิชาทุกชั้น แบบ 100% ได้คะแนนเฉลี่ย รวมทั้ง 4 วิชา 48.56 คะแนน เป็นลำดับที่ 2 ในกลุ่มโรงเรียนที่เรียนรู้ผ่านระบบการเรียนการสอนทางไกล DLTV ของ จ.สิงห์บุรี ซึ่งสูงกว่าคะแนนรวมของระดับประเทศ

การลงพื้นที่ครั้งนี้ ท่านปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้นำเลโก้ สมุด เครื่องเขียน กระติกน้ำ ขนม โต๊ะเขียนหนังสือ มอบให้เด็กๆ เพื่อเป็นการเสริมกิจกรรมให้นักเรียนได้ใช้กล้ามเนื้อมือและการสร้างสรรค์ความคิดผ่านอุปกรณ์ที่มอบให้ การเยี่ยมนักเรียนปลายทางที่บ้าน ในสถานการณ์ที่ไม่มีครูควบคุมชั้นเรียน พบว่า ด.ช.นพคุณ พุ่มสลิด ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนวัดสิงห์ คุ้นเคยกับการเรียนผ่านครูตู้ มีความสนใจและโต้ตอบ ทำกิจกรรมต่างๆได้ และมีบางเวลาที่อยากเล่นซนตามวัย ซึ่งมีผู้ปกครองคอยช่วยกระตุ้นเตือนเป็นระยะๆ นอกจากนี้ ยังสามารถท่องสูตรคูณแม่ 12 ได้และนับจำนวนคนที่มาเยี่ยมบ้านได้อย่างคล่องแคล่ว มีทักษะการสื่อสารโต้ตอบได้ดี และครูให้การใส่ใจมาบ้านนักเรียนสม่ำเสมอ มีการเตรียมใบงานต่างๆ และยังมีอุปกรณ์เสริมทักษะมาแจกด้วย เช่น ดินน้ำมัน ซึ่งแสดงถึงการจัดประสบการณ์ที่ดีของครู สะท้อนออกมาให้คณะที่มาเยี่ยมได้เห็น คือเมื่อนักเรียนได้รับ เลโก้ นักเรียนนำมาประกอบเป็นรถไฟ ซึ่งมีรายละเอียด ปล่องควัน และตอบได้ทุกคำถามเมื่อถามถึงทุกส่วนประกอบที่ต่อ และการมีกล้ามเนื้อมัดเล็ก(มือ) ที่แข็งแรง ต่ออย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว ผู้ปกครองชอบที่มีการเรียนลักษณะนี้ เพราะมีกิจกรรมที่มีประโยชน์ให้เด็กได้ทำ ซึ่งดีกว่าที่เด็กจะไปติดเกมส์ รวมทั้ง ยังได้มีโอกาสคุยกับครูอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง

ส่วนเด็กหญิงขนิษฐา เรือนงาม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และเด็กหญิงสุภัสรา เรือนงาม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดสาธุการาม คุ้นเคยในการเรียนกับครูตู้อย่างดี เพราะเรียนมาตั้งแต่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 จึงเรียนรู้ได้อย่างมีสมาธิ และรู้เวลา พร้อมทั้งเปิด ปิด ทีวีเอง แม้จะไม่มีครูคอยควบคุม จากการพูดคุย พบว่า เด็กหญิงขนิษฐา (ชั้นป.4) อ่านหนังสือได้คล่อง และชอบการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยกับครูตู้มาก อนาคตอยากเปิดร้านขายของ ในขณะที่เด็กหญิงสุภัสรา (ชั้นป.6) ในอนาคตอยากเป็นหมอ มีความรับผิดชอบสูง และเป็นผู้นำ คอยส่งข้อความทาง social (Facebook) แจ้งเตือนเพื่อนๆ เมื่อถึงเวลาเรียน รวมทั้งคอยดูแลน้อง และช่วยอธิบายให้น้องฟังด้วย และเรียนไปพร้อมๆกัน แต่คนละเครื่อง ชอบวิชาคณิตศาสตร์อย่างมาก เหตุผลเพราะชอบครูตู้ที่สอนสอนดี สอนละเอียด เช่น เรื่องเศษส่วนอธิบายได้ดี จนสามารถนำความรู้ไปสอนเพื่อนๆ ได้ ครอบครัวนี้ เป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ร่วมกัน ปู่ ย่า ตา ยาย น้า อา ทุกคนในบ้านจึงสลับกันดูแลนักเรียน ภาพที่ได้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในครัวเรือนผ่านการเรียนของลูกหลาน รวมทั้ง ตาภูมิใจที่เป็นคนต่ออุปกรณ์ให้หลานเรียน ปู่คอยเดินดูนักเรียน สร้างการมีส่วนร่วมของทุกคน ยังฝากบอกมาด้วยว่า สบายใจที่นักเรียนอยู่บ้านแล้วมีสิ่งที่ดีให้นักเรียนได้ทำ และยังได้เห็นครู และ ผอ รร. มาช่วยแก้ปัญหาเพื่อให้เด็กได้มีช่องทางการเรียนด้วย

จากการนำทีมจากพื้นที่ของ ศธจ. ในครั้งนี้ ทาง ผอ. รร. ได้แจ้งว่า ทาง ผอ. เขต และ รร. กำลังช่วยกันแก้ไขปัญหาอีก 14 ครัวเรือนที่ยังไม่มีอุปกรณ์ และต้องไม่เป็นภาระกับผู้ปกครอง จึงได้ข้อสรุปที่จะช่วยกันทั้งวิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี กศน. จังหวัดและตำบล จะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างทั่วถึง รวมทั้งยังได้หารือแนวทางต่อในวันที่ 1 กค ที่จะเปิดเรียนจริงที่ รร.โดย สพม 5 มีความกังวลในการเดินทางของนักเรียนใน รร ขนาดใหญ่ ซึ่งผลการหารือกัน ได้ข้อสรุปว่า นักเรียนต้องมี Face Shield และทุกฝ่ายจะหารือเตรียมพร้อมกันอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งๆที่จังหวัดสิงห์บุรีไม่มีการรายงานผู้ป่วยการติดเชื้อ covid-19 เลย แต่ยังมีการเตรียมการอย่างดีของทุกภาคส่วนร่วมกันอย่างเข้มแข็ง

การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ DLTV ของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครู ครูไม่ครบชั้น ครูไม่ตรงสาขา ของโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล ตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเท่านั้น ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ครูตู้ หรือ การเรียนการสอนผ่าน DLTV เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการนำมาแก้ปัญหาและทำให้นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้ และสร้างมิติใหม่ในความสัมพันธ์ที่ดี ของครู ผู้ปกครอง นักเรียน ผ่านการเยี่ยมบ้านอย่างใกล้ชิด พบว่า ทุกๆคนภูมิใจและเต็มใจที่เห็นนักเรียนใช้เวลาได้อย่างเป็นประโยชน์ เห็นการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนเพื่อสร้างเด็กกันอย่างจริงจัง รวมทั้งเติมเต็มเสริมกิจกรรมเพื่อให้การเรียนรู้เกิดกับนักเรียนได้ทุกเวลาในยามที่บ้านของนักเรียนกลายเป็นสถานที่ทำงานของครู, ผอ รร, เขตพื้นที่การศึกษา และหน่วยงานการศึกษาอื่นๆ

ซึ่งในการลงพื้นที่ ครั้งนี้ ดร.พิเชฐร์ วันทอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สิงห์บุรี พร้อมด้วย รอง ผอ.สพป. เป็นผู้นำคณะไปเยี่ยมนักเรียนที่บ้าน เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ตอบนโยบายของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) “โรงเรียนหยุดได้ แต่การเรียนรู้หยุดไม่ได้” ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมอบหมายให้ทุกๆคน ช่วยสื่อสาร รับฟัง และทำความเข้าใจกับผู้ปกครองโดยเน้นย้ำ ไม่ทำให้เกิดภาระกับผู้ปกครอง ด้วยการทำงานในรูปแบบของการบูรณาการเชื่อมโยงการทำงานของบุคลากรและหน่วยงานด้านการศึกษาในจังหวัดนั้นๆอย่างเต็มที่ ซึ่งการบูรณาการในครั้งนี้ของจังหวัดสิงห์บุรี ถือเป็นประโยชน์และเป็นแบบอย่างของพื้นที่ทางการศึกษาที่เข้มแข็งของกระทรวงศึกษาธิการอย่างแท้จริง

เจนกิจ นัดไธสง รายงาน