สอจร.ภาคอีสาน ติดตามการขับเคลื่อนงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดยโสธร พร้อมแนะนำข้อมูลไปใช้ป้องกันและแก้ปัญหาจราจร

วันนี้ (25พ.ค.63) นายชยุต วงศ์วณิช หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาธารณภัยจังหวัดยโสธร เป็นประธานการประชุมการกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดยโสธร โดยโครงการสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (สอจร) นำโดย นางเปรมปรีย์ ชวนะนรเศรษฐ์ หัวหน้าแผนงานโครงการสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง , นายนรินทร์ พรหมสาขา ณ สกลนคร , ดร.ชญานิน กฤติยะโชติ นักวิชาการ สอจร.ณ.ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร โดยมีประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร ผู้แทนจาก ตำรวจ/ สาธารณสุขจังหวัด/ ขนส่งจังหวัด/แขวงทางหลวงยโสธร ,แขวงทางหลวงชนบทจังหวัด/ โรงพยาบาลยโสธร/ สวท. ยโสธร ,บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมพร้อมนำเสนอผลการดำเนินงานในส่วนที่รับผิดชอบดำเนินการ

ทางด้าน นายชยุต วงศ์วณิช ปภ.ยโสธร กล่าวว่า จังหวัดยโสธร ได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินโครงการพัฒนาและเชื่อมภาคีเครือข่ายเพื่อการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดยโสธร โดย ปภ.เป็นหน่วยงานหลักดำเนินโครงการฯ โดยร่วมกับ ศปถ.จังหวัด และ ศปถ.อำเภอ ด้วยการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ยโสธรขับขี่ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุทางถนน 365 วัน การตั้งด่านชุมชน การรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 % ตลอดทั้งการดำเนินกิจกรรมลดปัจจัยเสี่ยงด้าน ด้านถนนและสภาพแวดล้อม การบังคับใช้กฎหมาย การรณรงค์ประชาสัมพันธ์และการบริหารจัดการข้อมูล และ ในครั้งนี้คณะ สอจร.ภาคอีสานตอนล่าง ได้ให้คำแนะนำในการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนโดยการนำข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้พื้นที่ไปใช้กำหนดแนวทางการป้องกัน ทั้งอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา การรณรงค์ให้เจ้าของรถ ทำ พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ การเสริมสร้างเครือข่ายป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในภาคการศึกษา การเสริมสร้างวินัยจราจรเพื่อการใช้รถใช้ถนนให้ปอลดภัยทางถนน

อย่างไรก็ตาม การเกิดอุบัติทางถนนจังหวัดยโสธร ในปีงบประมาณ 2563 ระหว่างเดือนตุลาคม 2562 – เมษายน 2563 มีผู้เสียชีวิต รวม 79 ราย ซึ่งสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้นำมาปรับแนวทางการดำเนินงานให้มีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป

ภาพ/ข่าว นิ่มนวล มานาดี