พีทแผงแตกพ้นคุก ศาลอุทธรณ์สั่งปรับ 6.2 หมื่น โทษจำ 2 ปี 15 วัน ให้รอลงอาญา
1 min readเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายธนวรรน์ คำแหงพล อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 25 หมู่ที่ 12 ต.เอราวัณ อ.เอราวัณ จ.เลย พ่อค้าขายล๊อตเตอรี่ที่เคยเป็นคดีดังจากเหตุการณ์ “พีทลวงโลก หรือ พีทแผงแตก” ว่า ในวันนี้ ( 28 พ.ค.63) เวลาประมาณ 09.00 น. ตนเองได้เดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 ศาลชั้นต้นเคยตัดสินพิพากษาว่า ตนเองมีความผิดใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา จำคุก 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท แต่ให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษจำคุกให้กึ่งหนึ่งเหลือ จำคุก 15 วัน ปรับ 2,000 บาท ,2. ข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม ศาลพิพากษาจำคุกข้อหาใช้เอกสารปลอม จำคุก 1 ปี และ 3. ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ศาลจำคุก 1 ปี รวมเป็น 2 ปี 15 วัน ส่วนข้อหาฉ้อโกงประชาชนนั้นศาลยกฟ้อง โดยหลังจากฟังคำตัดสินของศาลชั้นต้นแล้วก็ได้ขอประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อ ซึ่งในที่สุดวันนี้ ศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยืนตามศาลชั้นต้นคือ มีโทษทั้งจำและปรับ สำหรับโทษปรับนั้น ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วได้สั่งปรับเป็นเงิน 62,000 บาท ส่วนโทษจำคุก 2 ปี 15 วัน ให้รอลงอาญาไว้ก่อน เนื่องจากศาลเห็นว่า จำเลยรับสารภาพและยังได้ออกมาประกาศต่อสังคมถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของตนเองโดยไม่ได้มีใครบังคับให้เปิดเผยความจริงต่อสาธารณชน ส่งผลทำให้ประชาชนไม่เกิดความแตกตื่น จึงเห็นสมควรว่าโทษจำให้รอลงอาญาไว้ก่อน แต่จำเลยต้องไปแสดงตนต่อสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร และให้บำเพ็ญประโยชน์ 8 ครั้งภายในเวลา 1 ปี
นายธนวรรน์ คำแหงพล หรือพีทแผงแตก หรือพีทลวงโลก กล่าวอีกว่า หลังจากฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์แล้ว ตนเองและครอบครัวรู้สึกโล่งใจและดีใจเป็นอย่างมาก ซึ่งในส่วนของโทษปรับนั้นก็ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือที่จะต้องไปรายงานตัวกับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดและบำเพ็ญประโยชน์ 8 ครั้งในเวลา 1 ปี ตามคำสั่งศาล และหลังจากนี้ตนเองก็จะเดินหน้าขายล๊อตเตอรี่ต่อไป โดยจะไม่หวนกลับไปสร้างเรื่องแบบที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างแน่นอน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของตนอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการโพสต์สิ่งต่างๆ ลงโซเชียลที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จะโพสต์อะไรลงไปก็ต้องคิดให้ดีก่อนว่าจะมีผลอะไรที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเราตามมาบ้าง นอกจากนี้ยังจะไปทำบุญที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีด้วย เพราะก่อนหน้าที่ตนจะขึ้นศาล 1 วัน ได้ไปไว้พระพิฆเนศวร์ ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ โดยได้เจอกับหลวงตาท่านหนึ่ง ซึ่งท่านก็ได้ให้พรมาว่า ไม่ว่าตนจะเจออะไรในวันพรุ่งนี้ (ตรงกับวันขึ้นศาล) ก็ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ซึ่งตนรู้สึกตกใจและขนลุกว่า หลวงตาท่านนั้นรู้ได้อย่างไร ว่าตนจะต้องเจอกับอะไร
ภาพ/ข่าว ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร