“บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่สั่งเร่งแก้ปัญหาบึงสีไฟและแม่น้ำพิจิตรหวังใช้ประโยชน์กักเก็บน้ำฤดูน้ำหลากปีนี้
1 min readรองนายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่เมืองชาละวันรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาบึงสีไฟและแม่น้ำพิจิตร “บิ๊กป้อม” สั่งเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายน63เป้าหมายใช้บึงสีไฟเป็นที่กักเก็บน้ำที่คาดว่าหลังจากช่วงนี้อาจมีพายุใหญ่จะได้ใช้บึงสีไฟให้เป็นประโยชน์ทั้งแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม รวมถึงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
วันที่ 15 ก.ค. 2563 เมื่อช่วงเวลา 14.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ ซึ่งประกอบด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) , นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม , นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย , นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการตรวจราชการที่จังหวัดพิจิตรในครั้งนี้ มี นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ พ.อ.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นายพรชัย อินทร์สุข สส.พปชร.พิจิตร เขต 1 , นายภูดิท อินสุวรรณ์ สส.พปชร.พิจิตร เขต 2 , นายสุรชาติ ศรีบุศกร “ ส.ส.ไก่” สส.พปชร.พิจิตร เขต3 และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับกับการพัฒนาบึงสีไฟที่กำลังเป็นปัญหาหมักหมมมานานหลายปี ทั้งนี้สืบเนื่องจากบึงสีไฟเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 5,300 ไร่ แต่ตื้นเขิน ต่อมากรมเจ้าท่าได้อนุมัติงบประมาณ 341 ล้านบาท เพื่อดำเนินการขุดลอกบึงสีไฟแบ่งการทำงานของผู้รับจ้างเป็น 2 ระยะ ที่ต้องขุดดินออกจากบึงสีไฟจำนวน 12 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปรากฏว่าเมื่อขุดดินขึ้นมาแล้ววางกองอยู่รอบบึงสีไฟกลายเป็นภูเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวพิจิตรไม่ต้องการและเป็นสิ่งที่สร้างมลภาวะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นสิ่งทำลายภูมิทัศน์
จากการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ มองเห็นว่าประโยชน์ของบึงสีไฟสารถใช้เป็นแหล่งรับน้ำได้จำนวนมากกว่า 12 ล้านลูกบาศก์เมตร จากการมองเห็นปัญหาของ “บิ๊กป้อม” จึงได้สั่งการขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องกองดินที่ขุดขึ้นมา ว่า ให้เร่งประมูลขายหรือหางบประมาณ ขุด ขน ย้าย ไปให้ส่วนราชการหรือถมในที่ดินสาธารณะ ซึ่งผู้ว่าฯพิจิตร เสนออยากให้นำไปขยายเส้นทางถนนพิจิตร-สากเหล็ก จาก 2 ช่องการจราจรเป็น 4 ช่องการจราจร โดยใช้ดินจากบึงสีไฟนี้ รวมถึงดินส่วนหนึ่งให้เอาไปถมพื้นที่บริเวณหลังศาลากลางพิจิตร นอกจากนี้ภาคประชาชนกลุ่มขุนศึกลูกพ่อปู่กอบกู้แม่น้ำพิจิตร ก็ได้ขอเสนอให้ช่วยฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตรและคลองข้าวตอกเพื่อให้บึงสีไฟเป็นพื้นที่รับน้ำและกระจายน้ำสู่แม่น้ำพิจิตร – คลองข้าวตอกได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็อยากให้ปรับภูมิทัศน์และสร้างเส้นทางจักรยานที่ครั้งหนึ่งแขวงทางหลวงชนบทพิจิตรได้งบประมาณมาแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างไม่ได้ ดังนั้นหากมีการขนย้ายดินออกไปจากบึงสีไฟได้เมื่อไหร่ก็ควรจัดสรรงบประมาณทางจักรยานที่จังหวัดพิจิตรเคยได้กลับคืนมาให้ด้วย
สำหรับบรรยากาศการตรวจราชการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ เป็นไปอย่างราบรื่น “บิ๊กป้อม” อารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเองกับผู้ที่มาต้อนรับ แถมตอนท้ายก่อนจะเดินทางกลับยังได้อนุญาตให้ผู้ที่มาต้อนรับถ่ายภาพหมู่เป็นภาพที่ระลึกของการเยี่ยมเยือนบึงสีไฟเมืองชาละวันในครั้งนี้อีกด้วย
ภาพ/ข่าว สิทธิพจน์ พิจิตร
พื้นที่โฆษณา
คลิกเลย -> https://t.youpik.in.th/t.DQji
ช้อปเลย: ฿359.00 -64% | กล้องติดรถยนต์2กล้อง กล้องติดรถยนต์กระจกกันแสงสะท้อน
ความละเอียดสูงระดับ1920x1080P แสดงผล4.3นิ้ว(จอด้านซ้าย) 170 องศา การบันทึกกว้างกล้องหน้า 170 องศา(เลนกล้องด้านขวา)และกล้องหลัง120องศา กล้องหลังมาพร้อมกับLED 4ดวง รองรับเมนูภาษาไทยทำให้การตั้งค่าและการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆสามารถตั้งค่าได้ง่ายๆ รองรับ Micro SD Card สูงสุด 32 GB WDR:ฟังก์ชั่นปรับแสงสว่างอัตโนมัติไม่ว่าจะที่แสงจ้าหรือแสงน้อยก็ทำให้ภาพทีได้ดูคมชัดสมจริงรายละเอียดได้ครบ G-Sensor : ล็อกไฟล์อัตโนมัติ เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถ หมดกังวลเรื่องไฟล์เหตุการณ์สำคัญจะถูกลบ หรือบันทึกทับไป Loop Recording : บันทึกวีดีโอ แบบหมุนวน เมื่อพื้นที่จัดเก็บเต็ม กล้องจะบันทึกไฟล์วีดีโอใหม่ ทับไฟล์เดิมไฟล์แรกสุด ทำให้บันทึกได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องกลัวว่า พื้นที่จัดเก็บจะเต็ม Motion Detection : โหมดตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อมีวัตถุผ่านหน้ากล้อง กล้องจะเริ่มบันทึก