ชี้ช่องทำแล้วรวย!! กมธ.แก้ไขปัญหาราคาผลผลิตเกษตรจัดติวเข้มชาวนาพิจิตร ลดต้นทุนเพิ่มรายได้ (มีคลิป)
1 min readเกษตรกรเมืองชาละวันรวมตัวเข้าโครงการยกระดับเพิ่มความรู้จัดโดย กมธ.แก้ไขปัยหาราคาผลิตผลเกษตรกรรมชี้ช่องทำแล้วรวยด้วยวิธีลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ และพัฒนาปลูกพืชแบบผสมผสาน รู้เท่าทันการตลาดเข้าถึงเทคโนโลยี ติดตามข่าวสารนโยบายรัฐ
วันเสาร์ที่ 18 ก.ค. 2563 ณ ศูนย์ชัยพัฒนาการเกษตรสิรินธร ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลเนินมะกอก อำเภอ บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร นางสาวปุณณรีย์ ปิยาศิษฏ์สกุล เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการและคณะ ได้จัดโครงการสัมนาของคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรมขึ้น โดยมี นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ และมี นายสุรชาติ ศรีบุศกร “ส.ส.ไก่” สส.พปชร.พิจิตร เขต 3 และกลุ่มแกนนำเกษตรกรกว่า 300 คน เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้
วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการจัดอบรมในครั้งนี้ ก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของการทำการเกษตรหรือการทำนาเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตเพิ่มรายได้รวมถึงการให้ความรู้การพัฒนาปลูกพืชแบบผสมผสานรวมถึงการเลี้ยงสัตว์และการทำอาชีพอื่นๆ ควบคู่กับการทำนา ซึ่งปัจจุบันนี้ชาวนาพิจิตรกำลังประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ อีกทั้งปัญหาภัยแล้งฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศชาติ โดยการอบรมเรียนรู้ครั้งนี้มุ่งเน้นให้เห็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมภายในศูนย์ชัยพัฒนาฯ ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้เกษตรกรแบ่งเป็น 6 กลุ่ม เดินเรียนในฐานเรียนรู้ การปลูกผัก การปลูกไม้ผล การทำนา การเพาะเห็ด การเลี้ยงปลานิล-ปลากัด-ปลาสวยงาม-การเลี้ยงกบ-การเลี้ยงโคนม-การเรียนรู้เรื่องดินและปุ๋ยรวมถึงพืชสมุนไพร เพื่อให้ความรู้เหล่านี้จะได้เป็นทางเลือกกับเกษตรกรที่นอกเหนือจากการทำนาได้อีกด้วย
โดยในส่วนของวิทยากร ดร.บรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล อดีตประธานชมรมโรงสีข้าวพิจิตร ปัจจุบันผู้ประกอบการพลังงาน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงราคาผลผลิตหรือราคาข้าวของประเทศไทยในอนาคตมองว่าแนวโน้มจะให้ราคาข้าวสูงกว่าที่เป็นอยู่นี้คงเป็นไปได้ยาก ด้วยภาวะปัจจัยหลายประการ แต่ทางเลือกทางรอดของเกษตรกร คือ เกษตรกรต้องอยู่ร่วมกับสังคมพลังงาน รวมถึงต้องหาวิธีลดต้นทุน จะปลูกอะไรต้องคำนึงถึงตลาดเป็นอันดับแรก และต้องติดตามฟังนโยบายของรัฐบาลว่าสนับสนุนในเรื่องใดและอุดหนุนตามมาตรการใดบ้าง
นอกจากนี้ ดร.บรรจง “เฮียเซียะ” ซึ่งเป็นนักธุรกิจส่งออกข้าว เล่าเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้ตนเองผันตัวมาทำธุรกิจด้านพลังงาน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกื้อหนุนเกษตรกรได้ นั่นคือ เปิดธุรกิจรับซื้อใบอ้อย-ฟางในนาข้าว ซึ่งต่อไปเมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ใบอ้อยหรือฟางในนาข้าวรวมถึงเปลือกข้าวโพด ซังข้าวโพด ต้องเลิกเผา เพราะนั่นคือรายได้ส่วนหนึ่งที่ขายได้ ปัจจุบันเมื่อชาวนาเกี่ยวข้าวแล้วก็จะมีผู้ทำธุรกิจไปขอซื้อฟางข้าว-ใบอ้อย-ทุกส่วนของต้นข้าวโพด แล้วดำเนินการอัดเป็นก้อนมาขายโรงงานไฟฟ้าที่รับซื้อ กก.ละ 0.70-1.00 บาท ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการลดมลภาวะ PM 2.5 และช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ภาพ/ข่าว สิทธิพจน์ พิจิตร
พื้นที่โฆษณา
คลิกเลย -> https://t.youpik.in.th/t.DQji
ช้อปเลย: ฿359.00 -64% | กล้องติดรถยนต์2กล้อง กล้องติดรถยนต์กระจกกันแสงสะท้อน
ความละเอียดสูงระดับ1920x1080P แสดงผล4.3นิ้ว(จอด้านซ้าย) 170 องศา การบันทึกกว้างกล้องหน้า 170 องศา(เลนกล้องด้านขวา)และกล้องหลัง120องศา กล้องหลังมาพร้อมกับLED 4ดวง รองรับเมนูภาษาไทยทำให้การตั้งค่าและการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆสามารถตั้งค่าได้ง่ายๆ รองรับ Micro SD Card สูงสุด 32 GB WDR:ฟังก์ชั่นปรับแสงสว่างอัตโนมัติไม่ว่าจะที่แสงจ้าหรือแสงน้อยก็ทำให้ภาพทีได้ดูคมชัดสมจริงรายละเอียดได้ครบ G-Sensor : ล็อกไฟล์อัตโนมัติ เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถ หมดกังวลเรื่องไฟล์เหตุการณ์สำคัญจะถูกลบ หรือบันทึกทับไป Loop Recording : บันทึกวีดีโอ แบบหมุนวน เมื่อพื้นที่จัดเก็บเต็ม กล้องจะบันทึกไฟล์วีดีโอใหม่ ทับไฟล์เดิมไฟล์แรกสุด ทำให้บันทึกได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องกลัวว่า พื้นที่จัดเก็บจะเต็ม Motion Detection : โหมดตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อมีวัตถุผ่านหน้ากล้อง กล้องจะเริ่มบันทึก