จนท.รู้ตัวมือสังหารโหดสองแม่ลูกที่ศรีสาครแล้ว!!

สำหรับความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้ายสังหารโหด น.ส.อามีเนาะ สาแม อายุ 42 ปี และ น.ส.พารีซา แวเฮง อายุ 23 ปี 2 แม่ลูกอยู่บ้านเลขที่ 67/4 ม.6 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา ในป่าสวนยางพาราบ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร ก่อนเชิดเงิน 1 ล้านบาทหลบหนี ขณะขับรถยนต์เก๋งฮอนด้า ทะเบียน กข-4199 นราธิวาส เพื่อนำเงิน 1 ล้านบาทจะไปซื้อทองคำร่อนนั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง กำลังแยกย้ายกันติดตามตัวเจ้าของเงินสด ซึ่งเป็นเถ้าแก่ที่มอบเงินให้ 2 แม่ลูก ซึ่งเป็นลูกน้องไปซื้อทองคำร่อน ซึ่งข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าเงินจำนวนดังกล่าวมีจริง หรือ เถ้าแก่ได้มอบให้ไปหรือป่าว เพราะเงินจำนวนมากผิดวิสัยที่จะให้ 2 แม่ลูกพกเงินไปซื้อทองคำ ส่วนกรณีคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ จากการประเมินคาดว่าน่าจะเป็นคนรู้จักกับ 2 แม่ลูก เพราะรู้ความเคลื่อนไหว ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุจะนั่งโดยสารรถยนต์เก๋งของ 2 แม่ลูกมาด้วยกันหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจคราบลายมือแฝงที่ติดตามรอบตัวและรถยนต์เก๋งทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร ของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ว่านอกเหนือจากลายนิ้วมือของ 2 แม่ลูกแล้ว จะมีลายนิ้วมือของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้หรือไม่

นอกจากนี้ พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า จากอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนลูกซอง ซึ่งหากคนร้ายเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกับผู้ตาย หากโดยสารรถยนต์เก๋งของ 2 แม่ลูกมาด้วย ก็ต้องมีการสงสัยถ้าเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว พกติดตัวมาทำไม แต่ถ้าเป็นอาวุธปืนลูกซองสั้น หรือปืนไทยประดิษฐ์ คนร้ายอาจจะแอบเหน็บเอวไปด้วย ซึ่งจุดนี้อาจจะต้องแยกเป็น 2 ประเด็น ว่าคนร้ายนั่งรถยนต์เก๋งไปกับ 2 แม่ลูก หรือ ว่ารอดักจี้ขู่บังคับ 2 แม่ลูกไปสังหารในป่าสวนยางพารา ซึ่งผลการตรวจคราบลายนิ้วมือแฝงที่ติดตามที่ต่างๆของรถยนต์เก๋ง จะเป็นบทสรุปว่าคนร้ายมาอย่างไรในการลงมือก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ได้ตัดประเด็นการเสียชีวิตในเบื้องต้น มาจากการชิงทรัพย์ หรือรวมทั้งประเด็นชู้สาว แต่คาดว่าในเร็วๆนี้เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมคนร้ายมาลงโทษได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนสอบสวนจนพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ