ปราจีนบุรี คืบหน้าแม่บ้านช๊อกเก็บของคืนเจ้าของบอกขาดเงิน 4 หมื่น
1 min readคืบหน้ากรณี แม่บ้านโรงแรมดังในนิคม อุตสาหกรรม 304 เก็บถุงผ้าพบโทรศัพท์กับบัตร เอทีเอ็ม พร้อมเงิน 200 บาท ส่งคืนแต่ถูกแจ้งความกลับมอบทรัพย์สินไม่ครบ ขาดเงินอีก 4 หมื่นบาท
จากกรณีดังกล่าวที่ถูกเผยแพร่ทำให้วันนี้มีผู้สื่อข่าวหลายสำนักลงพื้นที่ปักหลักติดตามหาข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น พบนางผ่องศรี จันทร์สืบ ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเพราะเป็นคนเก็บถุงโทรศัพท์ พร้อมบัตรเอทีเอ็ม กับเงินสดอีก 4 หมื่นบาท ที่นาย พยม พนมบวน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ศราวุธ ศิลป์สาย ร้อยเวรสอบสวน เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 64 เวลา 11.00 น.ซึ่งเป็นการแจ้งหลังทรัพย์สินดังกล่าวหายตั้งแต่ 19.30 น.คืนวันที่ 21 ม.ค. 2564 โดยการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าหมู่บ้านสุกัญญาปาร์ค 2 ซอยบุยายใบ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
โดยที่วันนี้ นางผ่องศรี ได้ชี้จุดที่พบถุงตกในขณะที่กำลังยืนโทรศัพท์อยู่ข้างบ้านก่อนที่จะนำมาเปิดดูพบในถุงมีโทรศัพท์สองเครื่องกับบัตร เอทีเอ็ม และเงินสด 200 บาท ก่อนที่จะนำไปเก็บไว้เพื่อรอเจ้าของมาถามหา โดยขณะเกิดเหตุมีผู้เห็นหลบายคน
ต่อมาเวลา 11.00 น.วันที่ 22 ม.ค. 2564 ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ เรียกนางผ่องศรี ไปพบเนื่องจาก นาย พยม พนมบวน เข้าแจ้งความว่าของหายและพบว่า นางผ่องศรี เป็นเก็บไปโดยการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด เมือมาพบกัน ทางร้อยเวรเปิดให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาพูดคุยสุดท้ายทางนางผ่องศรี ได้นำทรัพย์สินที่อยู่ในถุงผ้า คืนโดยนายพยม พนมบวน รับกลับไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ต่อมาหลังจากนั้น นางผ่องศรีกลับถูกเรียกไปพบร้อยเวรอีกครั้งเนื่องจาก นายพยม พนมบวน แจ้งว่านางผ่องศรี ส่งคืนทรัพย์สินไม่ครบเนื่องจากในถุงดังกล่าวมีเงินสด 4 หมื่นบาท ที่ตนเตรียมจะนำไปเข้าธนาคารแต่มาทำหล่นหายเสียก่อน และภาพจากกล้องเห็นว่า ยนางผ่องศรีเป็นคนมาหยิบไป
ทางด้านนางผ่องศรี ยืนยันว่าในถุงไม่มีเงวินสด 4 หมื่น แต่มีแค่ 200 บาทแต่เนื่องจากกลัวความผิดที่เก็บแล้วไม่นำไปส่งคืนหรือแจ้งตำรวจอาจมีความผิด ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลาสกลางคืน จนต้องดิ้นรนหาหยิบยืมเงินทางเพื่อจะนำมามอบให้นานพยม เพื่อให้เรื่องยุติ แต่หามาได้แค่ 2 หมื่นบาท ทางนายพยม ลดให้เหลือ 3 หมื่นบาท แต่ต้องจ่ายในวันที่ 2 ก.พ. 64 เวลา 09.00 โดยประมาณสุดท้ายไม่สามารถลงกันได้ตามนัด นางผ่องศรี เอะใจว่า ถ้าของมีค่าหายจริงทำไมไม่รีบมาแจ้งความตั้งแต่เกิดเหตุ แต่นี่ปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึง 11 นาฬิกาอีกวัน หลังขอดูกล้องวงจรปิด และไม่เชื่อว่า เงินที่นาย พยม อ้างว่าเก็บไว้ที่ๆนอนจะเก็บไว้มากขนาดนั้น จึงไม่เชื่อว่าเงินหาย 4 หมื่นจริงจึงขอให้ทางร้อยเวร เจ้าของคดี สอบสวนเพิ่มเติมพร้อมกับขอให้ทางนายพยม ยืนยันหาที่มาของเงินทั้งหมดว่ามีจริงไม่ใช่มาอ้างหลังมีคนมาพบถุงดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หอพักลัดดา ที่นายพยม อ้างว่าทางบริษัท เช่าไว้ให้พัก แต่ปรากฏว่า ทางเจ้าของหอปฏิเสธไม่รู้จักและเมื่อสอบถามไปยังผู้เช่าที่ถูกอ้างก็ปฏิเสธว่าไม่มีพนักงานชื่อนี้
ทางด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.ศรีมหาโพธิ เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้และอยู่ในระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าใครผิดใครถูก ส่วนที่สองฝ่ายจะพูดคุยทำความตกลงก็มีโอกาส พูดคุยกันได้ ทางตำรวจขอเวลาอีก 2 อาทิตย์ ก็น่าจะสรุปได้
ภาพ/ข่าว ทองสุข สิงห์พิมพ์