ภัยแล้ง!! น้ำเค็มหนุนนำรถบรรทุกน้ำวิ่งรดน้ำในนาข้าว 2 ตำบล นอกเขตชลประทาน
1 min readวันที่ 3 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงาน ความคืบหน้าสถานการณ์ภัยแล้ง ได้เกิดภาวะน้ำเค็มหนุนจากปากอ่าวไทยเข้าสู่ลุ่มน้ำบางปะกง โดยขึ้นสูงถึงแม่น้ำปราจีนบุรีระยะทางกว่า 8 กม. และ แม่น้ำนครนายกระยะทางไกลว่า 20กม. โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ต.บางแตน และ ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ก่อนรวมกันเป็นแม่น้ำบางปะกงระดับค่าความเค็มมากกว่า 7 มก/ล. ไม่สามารถใช้ในการอุปโภค – บริโภค และใช้ในการเกษตรกรรมได้ เมื่อวันที่28 ม.ค.64 ตัวแทนชาวนาข้าว จากพื้นที่ ต.หัวไทร ต.บางกระเจ็ด จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย ต.บางแตน ต.บางยาง และ ต. บางเตย อ.บานสร้าง ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องทุกข์ กับนายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขอให้รมชลประทานปล่อยน้ำจากเขื่อนนฤบดินทรจินดา หรือ ห้วยสโมง ปล่อยน้ำจืดให้กับชาวนาข้าววันละ 3 ล้าน ลบ.ม.ลงมาตามแม่น้ำปราจีนบุรี ให้ที่ต้นขาวกำลังตั้งท้องที่กำลังขาดแคลนน้ำจืด หากขาดน้ำจืดจะยืนต้นตายมากว่า 15,000 ไร่
จ.ปราจีนบุรีได้ตั้งคณะกรรมการติดตามแก้ไขปัญหา เบื้องต้นโดยการระดมรถบรรทุกน้ำจากหน่วยราชการ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปล่อยน้ำในพื้นที่นาข้าว นอกเขตชลประทาน หมู่บ้านอ้อมบางแตน หมู่ 4 ต.บางแตน และ พื้นที่ บ้านไผ่ดำ หมู่6 ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง พื้นที่นาข้าวรวมว่า 5,600 ไร่ ที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำนครนายก และ แม่น้ำปราจีนบุรี ขาดแหล่งน้ำจืด นำรถบรรทุกน้ำมารดในนาข้าวไม่ให้ต้นข้าวยืนต้นตาย เนื่องจากแรงดันน้ำจืดที่ปล่อยมายังไม่สามารถผลักดันน้ำเค็มได้ โดยมอบหมายให้ นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ออกติดตามสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำ แม่น้ำปราจีนบุรี-แม่น้ำบางปะกง เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภาวะน้ำเค็มรุกล้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผลิตผลทางการเกษตร ฯลฯ โดยมีนายชนาธิป โคกมณี นายอำเภอบ้านสร้าง ร่วมออกติดตามฯ ด้วย ตามที่ได้เสนอรายละเอียดโดยต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด นายพยนต์ พฤกษา กำนัน ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรีกล่าวว่า ได้มารระดมรถบรรทุกน้ำจากหลายหน่วยงาน บรรทุกน้ำจืดมารดในนาข้าวให้แก่ชาวนา ที่ต้นข้าวกำลังตั้งท้อง –ออกรวง ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.64ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน นำน้ำจืดไปรดนาข้าว พื้นที่หมู่ 3 ,4 บ้านอ้อมบางตน ต.บางแตน และ หมู่บ้านไผ่ดำ หมู่ 6 ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน และ แม่น้ำปราจีนบุรี กับแม่น้ำนครนายกไหลผ่าน ขาดแคลนน้ำจืด
และพร้อมกันนี้ ยังได้ร้องทุกข์ โดยมอบหนังสือให้กับนายอำนาจ วิลาวัลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ปราจีนบุรี (สส.)เขต 1 นำหนังสือไปยื่นให้กับ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้รับทราบปัญหาโดยตรง เร่งให้ความช่วยเหลือแก่ชาวนาทั้งหมด พื้นที่ ต.หัวไทร ต.บางกระเจ็ด จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย ต.บางแตน,ต.บางยาง และ ต. บางเตย อ.บานสร้าง จ.ปราจีนบุรี กว่า 15,000 ไร่ ที่นาข้าวขาดน้ำจืด และกำลังยืนต้นตายอย่างเร่งด่วนด้วย” นายพยนต์ กล่าว และกล่าวต่อไปว่า วันที่ (3ก.พ.) นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายบรรเจิด สิทธิจู ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางพลวง นายสุรเทพ กิจกล้าเกษตรและสหกรณ์จังหวัดปราจีนบุรี นายชนาธิป โคกมณี นายอำเภอบ้านสร้าง นางสาวรัชภร เช้าวันดี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอบ้านสร้าง นางพงษ์ชัย ล้ำเลิศ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาบางพลวง เกษตรอำเภอบ้านสร้าง ร่วมออกติดตามสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำ แม่น้ำปราจีนบุรี-แม่น้ำบางปะกง เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภาวะน้ำเค็มรุกล้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผลิตผลทางการเกษตร จำนวน 8 จุด ได้แก่
จุดที่ 1 ปตร.คลองชวดตลาด หมู่ที่ 3 ตำบลไผ่ชะเลือด เขตติดต่อกับ หมู่ที่ 4 ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ
จุดที่ 2 ปตร.บ้านนาฝุ่น หมู่ที่ 3 ตำบลไผ่ชะเลือด อำเภอศรีมโหสถ
จุดที่ 3 ปตร.ไม้สามเรือน หมู่ที่ 6 ตำบลกระทุ่มแพ้ว อำเภอบ้านสร้าง
จุดที่ 4 ปตร.คลองหอทอง หมูที่ 7 ตำบลบางกระเบา อำเภอบ้านสร้าง วัดค่าความเค็มได้ 0.19 กรัม/ลิตร
จุดที่ 5 ปตร.คลองท้ายบ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลบางเตย อำเภอบ้านสร้าง วัดค่าความเค็มได้ 0.4 กรัม/ลิตร
จุดที่ 6 ปตร.คลองบางเขียด หมู่ที่ 11 ตำบลบางแตน อำเภอบ้านสร้าง แม่น้ำปราจีนบุรี วัดค่าความเค็มได้ 5.2 กรัม/ลิตร ท้ายคลอง (สูบเข้า) วัดค่าความเค็มได้ 1.14 กรัม/ลิตร
จุดที่ 7 พื้นที่ทำการเกษตร หมู่ที่ 4 ตำบลบางแตน อำเภอบ้านสร้าง
จุดที่ 8 จุดวัดความเค็มแม่น้ำนครนายก บ้านนายเฉลี่ยว ขวัญเนตร วัดค่าความเค็มได้ 5.16 กรัม/ลิตร
และได้ สุ่มวัดค่าความเค็ม บริเวณแม่น้ำนครนายกก่อนจุดบรรจบแม่น้ำ วัดค่าได้ 5.19 กรัม/ลิตร สถานการณ์ในความดูแลรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางพลวง อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งในพื้นที่ต้องการน้ำมาใช้ในการดูแลต้นข้าวในระยะตั้งท้องจนออกรวงเพียง 1 รอบ เท่านั้น
คาดการณ์ว่า เกษตรกรจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้ โครงการฯ บางพลวงได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับผู้นำชุมชน เกษตรกร และติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การใช้น้ำในทุกกิจกรรมเกิดประโยชน์สูงสุด
การให้ความช่วยเหลือโดยการสนับสนุนรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายให้เกษตรกรตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2564 มีรถบรรทุกน้ำเข้าให้การช่วยเหลือแล้ว จำนวน 10 คัน โดยโครงการฯบางพลวง 3 คัน โครงการชลประทานปราจีนบุรี 2 คัน อบจ.ปราจีนบุรี 1 คัน อบต.บางแตน 1 คัน อบต.บ้านสร้าง 1 คันอบต.บางยาง 1 คันและ อบต.บางเตย 1 คัน (น้ำ)
ผลการให้ความช่วยเหลือรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายให้เกษตรกรในพื้นที่ตำบลบางแตน ตำบลบางยางและตำบลบางเตย ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2564 – 3 กุมภาพันธ์ 2564 (12.00 น.) จำนวน 54 เที่ยว ปริมาณน้ำ 486,000 ลิตร เกษตรกร 9 ราย พื้นที่ 81 ไร่
ขณะที่ น.ส.ระชวย ศาลา อายุ 52 ปี ผญบ.หมู่ 4 บ้านอ้อมบางแตน ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “พื้นที่หมู่บ้าน้อมบางแตน อยู่ระหว่างแม่น้ำปราจีนบุรีกับแม่น้ำนครนายกไหลผ่านก่อนรวมเป็นแม่น้ำบางปะกง ชาวนากว่า 800 ไร่เศษในหมู่ 3,4 ต.บางแตน ขาดแคลนน้ำจืดสำรับนาข้าว รวมถึงพื้นที่การเกษตรอื่น ๆ อาทิ เกษตรผสมผสานของตนเองที่ขาดแคลนน้ำจืด ที่ผ่านมาน้ำจากเขื่อนฯยังไม่สามารถผลัดดันน้ำเค็มที่หนุนได้ แต่ได้รับการดูแลเบื้องต้น นำรถบรรทุกน้ำมารดนาข้าว ไม่ยืนตนตาย แต่ยังยืนยันขอให้กรมชลประทานปล่อยน้ำจืดมาช่วยชาวนาจะได้ประโยชน์มากว่า”น.ส.ระชวย กล่าว
ข่าว มานิตย์ สนับบุญ
รายงาน วัฒนา พวงสมบัติ