ตำรวจคุมตัวลูกศิษย์โหดฆ่าทุบหัวหลวงพ่อพิการสำนักสงฆ์ดังชัยภูมิมรณภาพไปทำแผน
1 min readตำรวจคุมตัวลูกศิษย์โหดฆ่าทุบหัวหลวงพ่อพิการสำนักสงฆ์ดังชัยภูมิมรณภาพไปทำแผนฆาตกรรมรับสารภาพสินฆ่าหวังชิงเงินจากหลวงพ่อไปซื้อยาเสพติด
กรณีเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 เวลา06.00น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกฆ่าทุบหัวพระสุริยา วงศ์สมบัติ อายุ 44 ปี สภาพศพศีรษะเป็นแผลแตกฉกรรจ์เลือดอาบ เหตุเกิดภายในสำนักสงฆ์บ้านป่าเปื่อย ตำบลห้วยยาง จังหวัดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนจะมรณภาพในเวลาต่อมา สอบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 22 ม.ค.64 ช่วงเช้าพระสุริยา โทรศัพท์มาแจ้งว่าผู้ใหญ่บ้านว่าถูกคนร้ายบุกเข้ามารอบทำร้ายร่างกาย ให้เข้ามาหาช่วยเหลือหน่อย แต่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนทำร้ายร่างกาย เนื่องจากไม่สามารถพูดคุยได้ จากนั้นกู้ชีพนำพระสุริยาส่งโรงพยาบาล ก่อนจะมรณภาพในเวลาต่อมา หลังพันตำรวจเอกสมพร อินเหลา ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยาง ไปตรวจที่เกิดเหตุเปิดเผยว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบว่ามีทรัพย์สินใดของพระสุริยาหายไป จึงพุ่งปมไปที่ปัญหาขัดแย้งส่วนตัวและฆ่าหวังชิงทรัพย์ อยู่ระหว่างเก็บรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำพยานแวดล้อม เพื่อเร่งล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ต่อมา พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3 พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับ สภ.ห้วยยาง โดย พ.ต.อ.สมพร อินเหลา ผกก.สภ.ห้วยนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพื้นที่ทำการสืบสวนสออบสวนนานนับอาทิตย์ เพื่อหาพยานหลักฐานต่างๆจนสามารถ จับกุมนายจักรพันธ์ ชาติชำนาญ อายุ24 ปีได้ในที่สุดและโดยนายจักรพันธ์ฯผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าพระสุริยาฯจริงเอง เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 เวลา ประมาณ 06.00น.ตนได้ขับ จยย.ไปหาพระสุริยาฯเพื่อไปยืมเงินมาซื้อยาบ้าเสพฯพบว่าพระสุริยาฯกำลังเดินจงกรมอยู่ด้านหลังสำนักสงฆ์ฯ ตนยิบไม้กระถิ่นยาว 1เมตรที่อยู่ข้างกุฏิแล้วเดินย้องเข้าไปหาทางด้านหลังแล้วใช้ไม้กระหน่ำตีเข้าที่บริเวณท้ายทอยด้านซ้าย จนพระสุริยาฯทรุดฟุบลงกับพื้นและได้วิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุไป ส่วนสาเหตุที่ต้องฆ่าพระสุริยาฯเนื่องจากตนจะไปขอจะไปยืมเงินพระเห็นพระอยู่องค์เดียวตนจึงวางแผนที่จะฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เอาไปซื้อยาบ้าเสพ แต่ขณะใช้ไม้ตีพระสุริยาฯแล้วพระสุริยาฯกลับได้รับบาดเจ็บได้หันมองมาเห็นตนเข้า ตนจึงตกใจได้วิ่งหนีขึ้นจยย.ขับหลบหนีออกไปจากสำนักสงฆ์ฯไปหลบซ้อนอยู่ในป่าบนภูเขาและเมื่อมาทราบว่าพระสุริยาฯได้มรณะภาพแล้ว จึงได้หวนกลับมาอยู่ที่บ้านพักทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและมาถูกเจ้าที่ตำรวจนำตัวมาดีเอ็นเอและตรวจฉี่พบเป็นสีม่วงและถูกจับกุมมาเค้นสอบจนด้วยหลักฐาน จึงรับสารภาพดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 พันตำรวจเอกสมพร อินเหลา ผกก. สภ.ห้วยยาง อ.คอนสาน จ.ชัยภูมิ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนับ10นายควบคุมตัวนายจักรพันธ์ ชาติชำนาญ อายุ24 ปี ลูกศิษย์วัดฯอยู่ บ้านเลขที่ 54หมู่ 3 ตำบลห้วยยาง อ.คอนสาน จังหวัดชัยภูมิ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณสำนักสงฆ์บ้านป่าเปื่อย ต.ห้วยยาง อ.คอนสาน ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านญาติโยมที่ทราบข่าวได้มารอดูการทำแผนครั้งนี้จำนวนมากต่างเรียกร้องให้เจ้าหน้าส่งตัวไปให้ศาลฯตัดสินประหารชีวิตโดยด่วนเพื่อจะไม่ได้ก่อเหตุเช่นนี้ขึ้นอีกต่อไป
จุดแรก นายก๊อตได้ซ่อนตัวอยู่ที่ก้อนหิน และคงจะมีการพูดคุยกับพระสุริยาแต่คงจะเป็นช่วงจังหวะพระสุริยาไม่เอ๊ะใจเพราะนายก๊อตถือว่าเป็นลูกศิษย์รู้จักกันมานานแล้ว พระสุริยาก็ออกเดินจงกลม ทันใดนั้นช่วงจังหวะพระสุริยาหันหลังให้ นายก๊อตใช้ท่อนไม้ที่นำมาเป็นอาวุธฟาดไปยังท้ายทอยจนล้มลงและค้นหาทรัพย์สินในถุงย่ามเอาทรัพย์สินเงินสดไปได้นับพันกว่าบาท
จุดที่ 2นำไปชี้จุดที่นายก๊อตขี่รถมอเตอร์ไซค์นำอาวุธท่อนไม้ไปซ่อนไว้ในโพรงป่าข้างๆไร่มันสำปะหลัง ห่างจากจุดที่เกิดเหตุกุฏิพระสุริยา ประมาณ50เมตร
และจุดที่3เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายก๊อดฯผู้ต้องหาไปทำพิธีขอขมาฐานบรรจุกระดูกพระสุริยาฯที่ตั้วอยู่ในบริเวณที่พระสุริยาฯถูกฆาตกรรมจนมรณภาพ
ขณะทำแผนได้อดีตภรรยาเก่าและลูกสาวทั้งสองคนและญาติๆของพระสุริยาฯได้กู่กันจะเข้าประชาทันณฑ์แต่ทางเจ้าหน้าที่ห้ามไว้ทัน และมีเสียงสาปแช่งผู้ต้องหา พระพิการมึงยังกล้าฆ่าได้ ไอ้…ห. ส่วนผู้เป็นแม่(สงวนชื่อ)ของนายก๊อตใส่เสื้อแขนยาวสีดำคาดแดง ได้ไปดูที่เกิดเหตุผู้สื่อข่าวสอบถามก็ไม่อยากที่จะพูดคุยด้วย และพูดว่า ก๊อต เขาก็ปกติมีนิสัยเงียบๆ เสียใจมากไม่เชื่อว่าลูกชายจะเป็นคนลงมือฆ่าพระสุริยา
ส่วนทางด้านนางสาวสาลิกา วงค์สมบัติ(น้องขวัญลูกสาวพระสุริยา)เล่าว่า หลังทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ทางญาติก็พากันนั่งรถยนต์ปิกอัพมาจากจังหวัดอุบลเพื่อที่จะมาดูหน้าคนร้ายทำไหมจำอำมหิตถึงขนาดนี้ และขอบคุณทางเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวที่ได้มาร่วมทำข่าวและอยากจะให้ดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุดถึงขั้นศาลฯตัดสินประหารชีวิตไปเลย
ผู้สื่อข่าวได้เดินทาง ไปยังบ้านของนายก๊อตเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวหน้าบ้านมีแฝงขายกล้วยอยู่หน้าบ้านไม่มีใครอยู่ภายในบ้านคาดว่าจะตามไปเยี่ยมลูกชายที่สภ.ห้วยยาง ได้สอบถามเพื่อนบ้านของนายก๊อต ก็เล่าว่า เขาก็เป็นเด็กตามปกติของวัยรุ่น ติดยา แต่ช่วงนี้เห็นว่าทางผู้เป็นพ่อและแม่ได้ประกันตัวออกมาจากชั้นศาลคดีลักทรัพย์ แต่ยังไม่กี่วันก็มาก่อเหตุฆ่าพระสุริยามรณภาพ
หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อนต่อไป
ภาพ/ข่าว คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ