แม่น้ำยมพิจิตรวิกฤตซ้ำซากลำน้ำแห้งขอดชาวบ้านลงทุนจ้างรถแบ็กโฮขุดลอกเปิดทางน้ำต่อลมหายใจนาข้าวนับพันไร่ (มีคลิป)
1 min readปัญหาภัยแล้งซ้ำซากในเขตลุ่มน้ำยมเมืองชาละวันที่ดูเหมือนจะหมดหนทางเยียวยาแห้ไข วันนี้วิกฤตซ้ำซากวนกลับมาที่เดิม คือสภาพแม่น้ำยมในเขต อ.สามง่าม จ.พิจิตร กลับมาแห้งขอดอีกครั้ง ชาวบ้านรอไม่ไหว รวมตัวใช้เงินจากกลุ่มผู้ใช้น้ำที่เก็บไร่ละ 120 บาท ลงขันจ้างรถแบ็กโฮขุดลอกเปิดทางน้ำมายังสถานีสูบน้ำเพื่อหวังต่อลมหายใจนาข้าวนับพันไร่ ตั้งท้องออกรวงรอการเก็บเกี่ยว วอนภาครัฐเร่งช่วยด่วน
วันที่ 6 ธ.ค. 2562 นางรติฬส พ่วงพร้อม หัวหน้า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร มอบหมายให้ น.ส.อัญชลี พันธุ์ปัญญา หัวหน้ากลุ่มยุทธสาสตร์ และการจัดการ สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ,นายจิรวุฑฒิ ผะอบเหล็ก นายช่างโยธาชำนาญงาน สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ประสานงานกับ น.ส.วรรณิสา ปัญญาวุฒิ , นายพิชิตพงศ์ แก้วทิม ซึ่งเป็นปลัดอำเภอสามง่าม ร่วมกันลงพื้นที่ ไปพบกับ นายคงพล คงมั่น กำนัน ต.กำแพงดิน หลังจากทราบข่าวว่า ชาวนาในเขตพื้นที่ ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร กำลังพบกำลังปัญหาวิกฤตภัยแล้ง ซึ่งเป็นปัญหาซ้ำซากที่ต้องใช้ระบบนโยบายจากภาครัฐส่วนกลางเท่านั้น ที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ทั้งนี้สาเหตุเนื่องจากแม่น้ำยมไม่มีเขื่อนกักเก็บน้ำแบบถาวร จะมีก็แค่เพียงฝายยางที่อยู่ในเขตพิจิตร แต่ขณะนี้ฝายยางสามง่ามก็อยู่ในระหว่างซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จเสียที จึงทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ช่วยชาวนาได้
ล่าสุด นายทรัพย์ ม่วงเก่า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านวังปลาทู ได้นำพาเจ้าหน้าที่และคณะทำงานดังกล่าวลงไปดูพื้นที่ ที่บริเวณแม่น้ำยมหน้าวัดวังปลาทู ต.กำแพงดิน ซึ่งอยู่ที่บริเวณหมู่ 10 พบว่าสภาพแม่น้ำยมบริเวณดังกล่าวเริ่มแห้งขอดเห็นเนินทรายเป็นช่วงๆ แต่ก็ยังมีน้ำอยู่ในแอ่งน้ำที่เป็นวังน้ำอยู่ในแม่น้ำยม ชาวนาบ้านวังปลาทูจึงได้รวมตัวกันใช้เงินจากการจัดเก็บสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านวังปลาทูไปจ้างรถแบ็กโฮของเอกชนมาทำการขุดเปิดลอกทางน้ำในแม่น้ำยม เพื่อหวังว่าจะให้น้ำในแม่น้ำยมที่มีเหลืออยู่เพียงน้อยนิดไหลไปรวมกันที่สถานีสูบน้ำบ้านวังปลาทู ซึ่งต้องขุดลอกทางน้ำเป็นระยะทางกว่า 2 กม. เพื่อให้ได้น้ำมาต่อลมหายใจให้กับนาข้าวจำนวนนับพันไร่ที่รอการเก็บเกี่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า…สำหรับปัญหาของแม่น้ำยมในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร ระยะทาง 127 กม. เป็นปัญหาซ้ำซากมายาวนานหลายสิบปี ที่ทุกวันนี้รัฐบาลก็ยังหาทางแก้ไขไม่ได้ ชาวบ้านและภาครัฐที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ทำได้แค่เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ ไม่มีแผน ไม่มีโครงการ ไม่มีงบประมาณ ไม่มีการลงมือทำ แบบยั่งยืนและถาวร แต่สิ่งที่ชาวบ้านคิดแบบภูมิปัญญาชาวบ้านก็คืออยากให้มีฝายน้ำล้นอยู่ในแม่น้ำยมเป็นแบบขั้นบันได แต่สุดท้ายก็ติดปัญหา EIA – HIA ด้านสิ่งแวดล้อมและนักวิชาการบางกลุ่มบางคนเท่านั้น รวมถึงกลุ่ม NGO บางกลุ่มที่มองโลกสวย ออกมาคัดค้านเสียเกือบทุกคราวไป
ภาพ/ข่าว สิทธิพจน์ พิจิตร