“แรมโบ้” สอนมวย “อรุณี“ โฆษกพรรคเพื่อไทย อย่าให้ท้ายผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมาย
1 min read“แรมโบ้” สอนมวย “อรุณี“ โฆษกพรรคเพื่อไทย อย่าให้ท้ายผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมาย บ้านเมืองมีขื่อมีแปร เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามกฎหมาย โฆษกอ่อนพรรษาพูดจาไร้ข้อมูลระวังพรรคเพื่อไทยตกต่ำ เสื่อมสภาพไปในที่สุด
12 กุมภาพันธ์ 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงน.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จี้รัฐเร่งหาตัวผู้ยิงแก๊สน้ำตาทำผู้ชุมนุมบาดเจ็บ และการปฏิบัติกับผู้ชุมนุมขัดกับหลักสากลและหลักสิทธิมนุษยชน แม้ว่าสหรัฐต่อสายตรงถึงเลขา สมช.ห่วงสถานการณ์ไทย โดยนายสุภรณ์ระบุว่าในช่วงที่ประเทศอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 แต่กลับมีการนัดชุมนุมรวมตัวกันถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแล้ว อีกทั้งการชุมนุมยังไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายสร้างความวุ่นวายและทำให้ประชาชนเดือดร้อน
ทั้งนี้ตำรวจได้มีการแถลงแล้วว่ามีกลุ่มมวลชนไปที่ สน.ปทุมวัน กดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวผู้กระทำความผิด และยังมีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งได้มีการใช้ระเบิดปิงปอง ลูกบอลประทัด ก้อนหินกวด พลุควันสี ขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายนาย มีทรัพย์สินราชการเสียหาย มีการพ่นสีทำลายรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองเชื่อว่า เป็นการกระทำที่อุกอาจเสมือนบ้านเมืองนี้ป่าเถื่อนไม่มีขื่อไม่มีแปรไร้สิ้นกฎหมาย แกนนำมีการการข่มขู่เจ้าหน้าที่และปลุกระดมให้มวลชนให้ใช้ความรุนแรงตลอดเวลา
นายสุภรณ์ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน พร้อมขอให้โฆษกพรรคเพื่อไทยอย่าตำหนิรัฐบาลหรือโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้นขอให้มองการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย อย่าได้เข้าข้างผู้ชุมนุมเพราะจะเป็นการส่งเสริมให้คนทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ถ้าเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ พรรคเพื่อไทยที่ชอบให้ท้ายผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายเสียเอง จะออกมารับผิดชอบหรือไม่
ส่วนที่โฆษกพรรคเพื่อไทยอ้างอิงถึงที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯโทรศัพท์พูดคุยกับพลเอกณัฏพล นาคพาณิชย์เลขา สมช. แสดงความกังวลถึงการชุมนุมประท้วงในไทยนั้น นายสุภรณ์ระบุว่าเรื่องนี้เลขา สมช.ชี้แจงแล้วว่าเป็นการพูดคุยแนะนำตัวสร้างความคุ้นเคยเพื่อประสานงานตามธรรมเนียม โดยไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง หรือการบังคับใช้กฎหมายมาตรา 112 กับผู้จาบจ้วงให้ร้ายสถาบัน เลขา สมช.ยืนยันชัดเจนไม่ได้พูดประเด็นนี้ มีแต่โฆษกพรรคเพื่อไทย เอามายืนยันเช่นนี้ หวังตีกินทางการเมืองจนทำให้หน้าแตกเย็บไม่ติด เพราะไม่รอฟังคำชี้แจงจากเลขาสมช. ก่อน
“โฆษกพรรคเพื่อไทยไม่ควรรีบออกมาพูดก่อนที่จะรอให้มีข้อเท็จจริงออกมาก่อน เพราะจะสร้างความสับสนให้กับประชาชน และขออย่าเอาประเด็นต่างๆมาพูดเพื่อทำลายบรรยากาศทางการเมืองจนเกิดความวุ่นวายเพื่อปลุกระดมเข้าข้างกลุ่มของตัวเองอีกเลย และหัดยอมรับความจริงด้วยว่ากลุ่มของตัวเองได้ทำอะไรผิด หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างไรไว้บ้าง ไม่ใช่จะมากล่าวหาแต่รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงฝ่ายเดียว
“ตนเป็นห่วงพรรคเพื่อไทยที่ใช้โฆษกแต่ละคนอ่อนหัดและอ่อนพรรษาทางการเมือง ยิ่งจะทำให้พรรคเสื่อมและสิ้นศรัทธาจากประชาชนตลอดจนสมาชิกพรรคจะเบื่อหน่ายเอือมระอา จนในที่สุดพรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคต่ำสิบหรือสาปสูญสิ้นสลายหายไปจากวงการเมืองไทยในเร็ววันนี้”