วัดหลวงพ่อเงินบางคลานนักท่องเที่ยวคึกคัก!! วัดขึ้นป้ายแจงยอดเงินบริจาคและยังคงติดตามบัญชีการเงินนับร้อยล้านที่ยังคาใจ (มีคลิป)
1 min readนักท่องเที่ยวแห่กราบไหว้บูชาหลวงพ่อเงินวัดบางคลานคึกคักตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษจีนส่งต่อถึงวันวาเลนไทน์ ในขณะที่ทางวัดเร่งปรับปรุงวิหารหลวงพ่อเงินปรับโฉมใหม่ให้ดูดีหลังจากที่นานนับสิบปีมัวแต่มีคดีความจึงขาดการพัฒนา วันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายเป็นไปตามกฎหมายบังคับ ล่าสุดกรรมการวัดขึ้นป้ายประกาศเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดที่ได้รับส่งมอบ ชี้แจงยอดเงินสดที่ได้รับบริจาค ประกาศยังคงติดตามบัญชีการเงินนับร้อยล้านที่ยังคาใจ
วันที่ 14 ก.พ. 2564 วัดหิรัญญาราม “วังตะโก” หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ตลอดยาวนานเกือบสิบปี ผู้ที่เป็นชาวพุทธและคนไทยทั่วโลกคงได้ยินข่าวถึงเรื่องการฟ้องร้องเกี่ยวกับวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ที่มีเรื่องโอละพ่อต่างๆมากมาย เป็นคดีความในศาลยุติธรรม-ศาลปกครอง-สู้คดีกันจนถึงศาลฎีกา ทำเอาช่วงก่อนหน้านี้ญาติโยมต่างเอือมระอาไม่อยากเข้าวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เพราะมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายสนับสนุน
ล่าสุดวันนี้บรรยากาศของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ทำให้บรรยากาศของการท่องเที่ยว ไหว้พระ ทำบุญ ที่วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนและส่งต่อมาถึงช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก ที่วัยรุ่น หนุ่มสาว รวมถึงสมาชิกในครอบครัวและผู้สูงอายุต่างมาไหว้พระขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปกป้องคุ้มครองคนที่เรารักให้มีความสุข จึงทำให้วันนี้วัดหลวงพ่อเงินบางคลานคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว
ในส่วนของ พระครูพิสุทธิวรากร ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม “วังตะโก” หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน กล่าวว่า… ถ้านักท่องเที่ยวมา.. นมัสการหลวงพ่อเงินวัดบางคลานในช่วงนี้ก็อาจจะได้พบเห็นความเปลี่ยนแปลงของการพัฒนาปรับปรุงอาคารสถานที่ โดยเฉพาะวิหารหลวงพ่อเงิน ซึ่งนานนับสิบปีเว้นว่างจากการพัฒนา ดังนั้นวันนี้จึงมีการพัฒนาปรับปรุงขนานใหญ่ แต่รูปหล่อองค์หลวงพ่อเงินขนาดเท่าองค์จริงที่เป็นของดั้งเดิมก็ยังคงประดิษฐานอยู่ ณ ที่เดิม มิได้เคลื่อนย้ายไปแต่อย่างใด การพัฒนาครั้งนี้ก็ใช้เงินบริจาคของญาติโยม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ในช่วงเดือน เมษายน 2564 อีกด้วย
ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่มาวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ส่วนใหญ่ให้ความสนใจบูชาวัตถุมงคลที่นานนับสิบปีมาแล้ว วัดหลวงเงินบางคลาน ไม่เคยปลุกเสกวัตถุมงคลที่เป็นของทางวัดเองเลย อีกทั้งข่าวที่บอกว่าวัดหลวงเงินกรุแตก ก็ไม่เป็นความจริง..แต่เรื่องจริงๆคือ วัดได้มีวัตถุมงคลของวัดหลวงเงินบางคลานที่เป็นของเก่าจัดทำไว้เมื่อ 10 ปีก่อน เก็บไว้ในกุฏิ แต่ช่วงนั้นมีคดีความจึงถูกอายัด ห้ามจำหน่าย แต่ในขณะนี้ภายหลังศาลฎีกาตัดสินแล้วจึงได้นำวัตถุมงคลออกมาจำหน่าย แต่ก็จำหน่ายในราคาที่ตั้งไว้เมื่อ 10 ปีก่อน จึงทำให้กลายเป็นของดีราคาถูก มีไม่มากนัก จึงทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมและเซียนพระต่างๆ มาเช่าบูชากันอย่างคึกคักอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากการลงพื้นที่ไปสะดุดตากับป้ายประกาศ วัดหิรัญญาราม “วังตะโก” หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จึงได้สอบถามกับ นายพร ปั้นเพ็ง กรรมการวัด ว่า ป้ายดังกล่าวประกาศในเรื่องใด ก็ได้คำตอบว่า …เป็นการแสดงความโปร่งใสด้านสถานะการเงินของวัดในเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดที่ได้รับส่งมอบตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ภายหลังศาลฎีกาตัดสิน พระครูพิสุทธิวรากร ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม “วังตะโก” หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จึงได้ดำเนินการรับการส่งมอบทรัพย์สินมาในบางส่วน ซึ่งในสาระสำคัญของประกาศนี้ระบุว่าได้รับส่งมอบทรัพย์สินบางส่วนเมื่อวันที่ 3-4 ธันวาคม 2563 ตรวจนับเงินบนวิหารหลวงพ่อเงินได้เงินธนบัตร 6,046,320 บาท และได้เงินเหรียญชนิดต่างๆ 697,244 บาท รวมเป็นเงิน 6,743,564 บาท ( หกล้านเจ็ดแสนสี่หมื่นสามพันห้าร้อยหกสิบสี่บาท ) นอกจากนี้ในป้ายประกาศในข้อ 4. ยังระบุข้อความว่า ตรวจสอบบัญชีการเงินของวัดการจัดสร้างวัตถุมงคลปี พ.ศ. 2555 พบเงินไม่มีเข้าบัญชีวัดจำนวนประมาณ 44 ล้านบาท ทางวัดกำลังดำเนินการตรวจสอบและติดตามอยู่ ส่วนข้อที่ 5. ในป้ายประกาศ ยังระบุข้อความว่า.. ตรวจสอบบัญชีการเงินของวัดตั้งแต่ปี 2554-2561 พบข้อบกพร่องของบัญชีรายรับ-รายจ่าย จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 113 ล้านบาท ทางวัดกำลังดำเนินการตรวจสอบและติดตามอยู่ ส่วนทรัพย์สิน ที่ยังไม่ได้ส่งมอบอีกบางส่วนเมื่อมีการส่งมอบและตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยจะประกาศให้ทราบต่อไป ประกาศ ณ วันที่ 29 ม.ค. 2564
ซึ่งหลังจากมีประกาศดังกล่าว ทำให้ประชาชนเริ่มสนใจว่า วัตถุมงคล-เงินบริจาค-ทรัพย์สินต่างๆ ของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ขณะนี้มีมากน้อยแค่ไหน และ ทำอะไร-ใช้อะไร ไปแล้วบ้าง ซึ่งคณะกรรมการของวัดบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ต่อจากนี้จะรายงานให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบอย่างโปร่งใสและต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีขึ้นป้ายคัทเอาท์ติดตั้งอยู่ภายในเขตวัด ซึ่งในอนาคตจะได้ปรับปรุงใช้สื่อออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์ให้โปร่งใสทันยุคทันสมัยต่อไป
ภาพ/ข่าว สิทธิพจน์ พิจิตร