ธ.กรุงไทยจัดหน่วยเคลื่อนที่ลงทะเบียนเราชนะรู้สาเหตุคนแก่แห่มาทำเอง (มีคลิป)

ลงทะเบียนเราชนะที่เมืองชาละวันหลังจากที่วันแรกคนเฒ่า คนแก่ คนพิการ แห่บุกธนาคารกรุงไทยทุกสาขากันแน่นขนัดนับพันคน แต่ธนาคารให้บริหารได้เพียงแค่วันละ 200-300 คน เท่านั้น ทำให้เกิดภาพเป็นข่าวถึงคงามชุลมุนวุ่นวาย ล่าสุด ผู้ว่าฯพิจิตร จับมือ ธ.กรุงไทย จัดหน่วย One Stop Service เคลื่อนที่มาให้บริการ ณ ที่ว่าการอำเภอ สั่งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ จัดคิว จัดรอบเวร ให้ชาวบ้านมาเป็นรายตำบล เพื่อลดความแออัด สอบถามพูดคุยเหตุที่คนแก่ต้องหอบสังขารมาขอลงทะเบียน “เราชนะ” ด้วยตนเอง ได้ความว่า จำนวนเงินมากถึง 7,000 บาท เกรงให้ลูกหลานทำให้ จะต้องเสียส่วนแบ่ง จึงอยากมาทำเอง

วันที่ 17 ก.พ. 2564 นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ไปยังที่หอประชุมของที่ว่าการอำเภอเมืองพิจิตร ที่ได้ประสานงานกับ นายไชยา สมถวิล นายอำเภอเมืองพิจิตร นายกฤษณะ หิรัณยเกศ ผู้จัดการสำนักงานเขตพิจิตร ธนาคารกรุงไทย น.ส.ยุบล ปกป้อง คลังจังหวัดพิจิตร ที่ได้ดำเนินการจัดหน่วยเคลื่อนที่นำพนักงานและอุปกรณ์มาให้บริการลงทะเบียน “เราชนะ” ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองพิจิตร แบบ One Stop Service โดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง-เจ้าหน้าที่ของธนาคาร ประสานความร่วมมือกันให้บริการประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็น คนเฒ่า คนแก่ ไม่มีโทรศัพท์ที่เป็นระบบสมาร์ทโฟน หรือ บางคนก็มีแต่ใช้ไม่เป็น ซึ่งต้องให้ลูกหลานดำเนินการให้ บางคนก็เคยให้ลูกหลานใช้ชื่อใช้สิทธิของตนลงทะเบียนคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน มีทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว พอมาถึงวันนี้เมื่อจะดำเนินการลงทะเบียน “เราชนะ” จึงทำให้ระบบไม่สามารถดำเนินการได้

บรรยากาศภายในหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองพิจิตร ที่เปิดโครงการรับลงทะเบียน “เราชนะ” เคลื่อนที่ วันนี้วันแรกก็มีชาวบ้านที่เป็นคนเฒ่า คนแก่ ประมาณ 500 คน มาขอใช้บริการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เตรียมการจัดระเบียบไว้เป็นอย่างดี มีเก้าอี้ให้นั่งรอ มีน้ำดื่มแจก นั่งอยู่ในห้องแอร์ภายในหอประชุม จึงทำให้หลายคนพึงพอใจ ถึงแม้จะติดคิวนานนับชั่วโมงกว่าจะถูกเรียกให้มา ให้ประวัติ ซึ่งเจ้าหน้าที่เกือบ 20 คน ที่ช่วยกันดำเนินการ แต่อุปสรรคก็คือระบบการใช้อินเทอร์เน็ตหรือการใช้อุปกรณ์ของธนาคารที่นำยกออกมาใช้นอกสถานที่ทำให้มีปัญหาต้องหาวิธีแก้ไขเฉพาะหน้าด้วยการใช้แฟลชไดร์ฟบันทึกข้อมูลแล้วให้ม้าเร็วขี่มอเตอร์ไซด์นำไปเข้าระบบที่ธนาคารสาขา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอีกช่องทางหนึ่ง

ในส่วนของ นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า การให้บริหารเคลื่อนที่ในลักษณะนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองพิจิตร จะให้บริการ 3 วัน ในช่วงระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ. 2564 เพื่อลดความแออัดชาวบ้านจะได้ไม่ต้องไปที่ธนาคาร ซึ่งให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ประกาศให้ชาวบ้านมาใช้บริการตามรอบเวรที่ให้มาทีละตำบล ทีละหมู่บ้าน แบ่งเป็นรอบ เช้า-บ่าย เพื่อลดความแออัด ส่วนผู้ที่เป็นคนแก่ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง ที่เรียกว่ากลุ่มเปราะบาง ก็กำลังเร่งสำรวจข้อมูลว่ามีใครบ้าง บ้านอยู่ตรงไหน ก็จะได้ให้ทีม Smart Service ไปให้บริการถึงบ้านเพื่อจะได้ ได้สิทธิ ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลตามโครงการ “เราชนะ” อย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามพูดคุยนอกรอบกับคนเฒ่า คนแก่ ที่มาลงทะเบียน “เราชนะ” ในครั้งนี้ก็พอได้ข้อมูลว่า ..ทำไมคนเฒ่า คนแก่ จึงต้องแห่กันมาลงทะเบียนด้วยตนเอง ทั้งๆที่ก็มีลูกหลานที่มีโทรศัพท์แบบสมารท์โฟนรวมถึงคนแก่บางคนก็มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ก็ได้รับคำตอบว่า จากการสัมภาษณ์คนแก่หรือผู้สูงอายุของเจ้าหน้าที่ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า… คนแก่หรือผู้สูงอายุบางราย ก่อนหน้านี้เคยให้ลูกหลานลงทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล หรือมอบสิทธิ ให้ลูกหลานไปรับเงินเบี้ยคนแก่ คนชรา และอื่นๆ ก็ถูกลูกหลานขอแบ่งเงินเป็นค่าขนมหรือค่าให้บริการ ดังนั้นคราวนี้เห็นว่าเงินในโครงการ “เราชนะ” รัฐบาลจะให้มากถึง 7,000 บาท จึงเกรงว่าถ้ามอบให้ลูกหลานหรือผู้อื่นดำเนินการอาจถูกชักหัวคิว จึงต้องหอบสังขารมาลงทะเบียนด้วยตนเองดังกล่าว

ภาพ/ข่าว สิทธิพจน์ พิจิตร