ยายหนูเศร้าใจ!! บ้านทั้งหลังไฟไหม้หมดภายในพริบตา วอดหมดทั้งหลังจากนํ้าพักนํ้าแรง จนสิ้นเนื้อประดาตัว (มีคลิป)
1 min readเมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 17 ก.พ.64 เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดกับครอบครัวยายหนู อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 219 บ้านกระสัง หมูที่ 7 ต.โคกเหล็ก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ จนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่เหลือแม้แต่เสื้อผ้าจะใส่ เงินสดที่สะสมมานับหลายหมื่นบาท พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นทีวีจำนวน 3 เครื่อง ตู้เย็น 5 เครื่อง ผัดลม หม้อหุงข้าว และเครื่องทำขนมปัง ข้าวเปลือก 40 กระสอบ
จากการให้สัมภาษณ์ของยายหนู อะเพื่อนรัมย์ ว่าเมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 17 ก.พ.64 ตัวเองพร้อมลูกหลาน 9 ชีวิตที่อยู่ภายในบ้าน ทุกคนได้นอนหลับไหล เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานรับจ้างมา และเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดกับครอบครัวจนได้ เกิดไฟฟ้าลัดวงจรชั้นบนของตัวบ้าน ตัวเองจึงได้ลุกขึ้นมานั่งฟังว่าเสียงอะไรดังขึ้น จนกระทั่งครั้งที่สองเสียงดั่งขึ้นมาอีกพร้อมกับไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะในขณะนั้นตัวเองพร้อมลูกหลานจะพากันหลับนอน ที่ชั้นล่างกันหมด พอไฟลุกไหม้ จึงได้รีบตะโกนเรียกลูกหลานไห้ลุกมาช่วยดับไฟ แต่ก็เพราะเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟลุกไหม้ อย่างรุ่นแรง ไม่สามารถช่วยกันดับได้ นางสุธี มีโชค อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวคนที่ 2 ได้วิ่งขึ้นไปบนบ้าน เพื่อจะขึ้นไปเอาทรัพย์สินที่อยู่บนบ้านแต่เพราะไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วและประกอบกับมีลมกันโชกแรง จึงทำให้ไม่สามารถขึ้นไปบนบ้านได้ จนได้รับบาดเจ็บที่หน้าและแขน ที่เกิดจากไฟไหม้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวยายหนู อะเพื่อนรัมย์ ได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองพร้อมลูกๆได้ก่อร้างสร้างบ้านหลังนี้จากหยาดเหงื่อที่ทนทุกข์ลำบากรับจ้างเป็นกรรมกรก่อสร้าง เพราะฐานะตนเองลำบากยากจน จึงได้อดทนอดออม สร้างบ้านนี้จนสำเร็จโดยใช้ระยะเวลา 10 ปี เพิ่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 63 ที่ผ่านมา และก็ปัจจุบันลูกๆหลานก็ไม่มีงานทำ เนื่องจากโรคระบาดโควิท-19 มาทำให้นายจ้างเลิกจ้างจึงได้กลับมาอยู่บ้าน และก็พยายามหารายได้โดยฝึกทำขนมปัง จนเข้าใจวิธีการทำ จึงได้ซื้อเครื่องขนมปังมาทำขายให้กับชุมชนภายในหมู่บ้าน พอเลี้ยงดูครอบครัว 9 ชีวิต ยายหนูผูดไปนํ้าตาคลอไป ว่าต่อไปนี้ตนเองไม่รู้จะมีปัญญาสร้างบ้านแบบนี้ได้อีกไม่เพราะตอนนี้ตนก็อายุ 67 ปีแล้ว ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนเศรษฐกิจก็ไม่ดีลูกหลานก็ไม่มีงานทำ ปัจจุบันต้องหลับนอนในเต็นท์ แต่ก็ยังโชคดีที่มีเพื่อนบ้านและหน่วยงานของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ได้ดูข่าว ได้แวะมาเยี่ยมนำสิ่งของและเงินสดมาให้เพื่อบรรเทา ในช่วงนี้ไปก่อน
ภาพ/ข่าว สมัย นิกูลรัมย์