ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ กลางมอเตอร์เวย์ ตรวจพบยาบ้ากว่า 2,560,000 เม็ด

กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. ,พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ช่วยราชการ บก.ทล.,พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.8 บก.ทล, พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ สวญ.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.,พ.ต.ท.อารัติ พายทอง รอง ผกก.(สอบสวน) ส.ทล.1กก.8 บก.ทล. ,พ.ต.ต.ชยเชษฐ์ อิทธิยาภรณ์ สว.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.สิงหโรจน์ สืบส่ง ,ร.ต.อ.บัณฑิต นวลปาน ,ร.ต.อ.อุดมศิลป์ ลีลาสมฤกษ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.,ด.ต.สมศักดิ์ คำปลิว,ด.ต.ธีรภัทร์ จันประทักษ์,ด.ต.อัฐพงศ์ พันธุ์จบสิงห์, ด.ต.สุวิท คงวิจิตร, ด.ต.สันติ โพธิรัตน์,ด.ต.ยงยุทธ ประทุมมา, ด.ต.ถวิล วรพัฒนา,จ.ส.ต.นนทนันท์ แนบเนียร,ส.ต.อ.ปัญญา สุริยันต์, ส.ต.อ.เกริกเกียรติ อินเสนา ผบ.(หมู่) สว.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นายเอกลักษณ์ฯ อายุ 42 ปี ต้องหากระทำความผิดฐาน 1.“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย เพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต” 2. “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) มีลักษณะเป็นเม็ดกลมแบนประทับอักษร WY รวมจำนวน 2,560,000 เม็ด 2. รถยนต์กระบะส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น D-MaX สีขาว 1 คัน พร้อมแผ่นป้ายทะเบียน 3.โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง สถานที่จับกุม บริเวณถนนหลวงพิเศษ หมายเลข 7 กม.55+500 ขาออก ต.บางนาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดประเภทที่1 ( ยาบ้า ) จากพื้นที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โดยใช้รถยนต์กระบะส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น D-MaX สีขาว เมื่อทราบดังนั้น พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ สวญ.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.อารัติ พายทอง รอง ผกก.(สอบสวน) ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. ,พ.ต.ต.ชยเชษฐ์ อิทธิยาภรณ์ สว.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. จึงได้สั่งการให้ รถวิทยุตรวจการณ์ 8125 ไปดำเนินการเฝ้าติดตามและจับกุมภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งเมื่อ เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะรถวิทยุ 8125 ออกตรวจมาถึงบริเวณถนนหลวงพิเศษ หมายเลข 7 กม.55+500 ขาออก ต.บางนาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยมีลักษณะและหมายเลขทะเบียนตรงกับที่สายลับแจ้งมา วิ่งอยู่ในช่องทางด้านขวา รถวิทยุ 8125 จึงได้ขับรถไล่ติดตามและส่งสัญญาณเปิดไฟวับวาบให้รถยนต์คันดังกล่าวขับชิดทางด้านซ้ายและจอดเพื่อขอทำการตรวจสอบ เมื่อรถคันดังกล่าวจอดชิดขอบทางด้านซ้ายเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้เดินไปยังรถคันดังกล่าว พบว่ามีบุคคลเพศชายเป็นผู้ขับขี่มาเพียงคนเดียว ดังนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ ทราบชื่อคือ นายเอกลักษณ์ฯ อายุ 42 ปี และพบถุงกระสอบสีดำ จำนวน 6 กระสอบอยู่บริเวณในห้องผู้โดยสารรถยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้สอบถามนายเอกลักษณ์ ฯ ว่าได้บรรทุกสิ่งของอะไรมาที่อยู่ในห้องผู้โดยสารรถยนต์ นายเอกลักษณ์ ฯ ได้ให้การว่าตนได้บรรทุกของใช้ส่วนตัวมา และระหว่างการสอบถาม นายเอกลักษณ์ ฯ แสดงอาการพิรุธ กระวนกระวาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเชื่อว่าสิ่งของคือถุงสีดำที่อยู่ภายในรถน่าจะเป็นยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายอย่างอื่นตามที่สายลับแจ้งมา

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงขอทำการตรวจค้นภายในรถโดยก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ จนเป็นที่พอใจแก่นายเอกลักษณ์ ฯ (ผู้ขับขี่) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบของกลางเป็นยาบ้า หรือเมตแอมเฟตามีน เมื่อเป็นความผิดซึ่งหน้าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ ฯ พร้อมรถยนต์และยาบ้าที่ตรวจพบ มาทำการตรวจสอบโดยละเอียดที่สถานีตำรวจทางหลวง1 กก.8 บก.ทล. จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่ารถคันดังกล่าวบรรจุถุงกระสอบสีดำ จำนวน 6 กระสอบ ตรวจพบยาบ้า เป็นจำนวน รวม 2,560,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ได้ตรวจยึดยาบ้าและของกลางที่ถูกตรวจพบตามบัญชีของกลางดังกล่าวไว้เป็นของกลางทั้งหมด สอบถามนายเอกลักษณ์ ฯ ให้การรับว่าของกลางยาเสพติด (ยาบ้า) ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้นั้นเป็นของตนซึ่งรับจ้างบรรทุกมาจาก อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โดยตกลงว่าตนจะได้รับค่าจ้าง จากนายบอย (ไม่ทราบ ชื่อ- สกุล จริง) เป็นจำนวนเงิน 420,000 บาท เมื่อรับยาบ้ามาและส่งถึงมือลูกค้าได้ และยังรับอีกว่าตนได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้อีกด้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจสอบหาสารเสพติดในปัสสาวะของผู้ถูกจับเบื้องต้น(ผลเป็นบวก) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ และในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนขยายผลอยู่นั้นได้มีผู้ติดต่อทางไลน์ใช้ชื่อว่า ”OMEGA” ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ของผู้ถูกจับ เพื่อขอติดสินบนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมปล่อยตัวนายเอกลักษณ์ฯ โดยตนจะทำการโอนเงินให้จำนวนเงินประมาณ 300,000 บาท หากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมปล่อยตัวนายเอกลักษณ์ฯ เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีฯ ซึ่งสำหรับเจ้าของบัญชีไลน์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะทำการสืบสวนขยายผลหาตัวบุคคลดังกล่าวต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.พานทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป