ผู้ว่าฯ สตง. สัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบผู้เชี่ยวชาญ 22 ท่าน พร้อมให้ข้อมูลเต็มที่ ย้ำเชื่อมั่นความโปร่งใส
1 min read
ผู้ว่าฯ สตง. สัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบผู้เชี่ยวชาญ 22 ท่าน พร้อมให้ข้อมูลเต็มที่ ย้ำเชื่อมั่นความโปร่งใส ขณะนี้ สตง. ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัทอิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด
นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เดินทางไปยังศูนย์พักคอยผู้ประสบภัย เพื่อให้กำลังใจแก่ญาติของผู้สูญหายจากเหตุการณ์อาคารถล่ม และได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์
นายมณเฑียรกล่าวว่า สาเหตุที่ สตง. ยังไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ เป็นเพราะต้องการรอและเคารพกระบวนการดำเนินการของรัฐบาล ซึ่งได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมกว่า 22 ท่าน ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทาง สตง. จึงต้องรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดนี้ ควบคู่ไปกับการสืบสวนของตำรวจนครบาล และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ได้เข้ามาขอเอกสารทั้งหมดไปแล้ว โดยย้ำว่า สตง. พร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ และไม่อยากออกมาให้ข้อมูลที่อาจถูกมองว่าเป็นการแก้ตัว แต่ต้องการนำเสนอข้อเท็จจริงที่ผ่านการพิสูจน์และตรวจสอบแล้วเท่านั้น
ผู้ว่าฯ สตง. กล่าวต่อว่า คณะกรรมการตรวจสอบได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ การควบคุมงานก่อสร้าง หรือวัสดุที่ใช้ ซึ่ง สตง. ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการพิสูจน์ทางเทคนิคของช่าง ซึ่งในตอนนี้พวกเรายังไม่ทราบผลการสอบสวน จึงไม่อยากคาดเดา และพร้อมให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการในทุกเรื่อง เมื่อผลสอบออกมาเป็นอย่างไร เราก็จะยอมรับ
ส่วนกรณีที่รัฐบาลเลื่อนการแถลงผลการสอบสวนจากเดิมวันที่ 10 เมษายน ทำให้ สตง. ต้องเลื่อนการแถลงในวันนี้ตามไปด้วย โดยตอนแรกเราตั้งใจจะแถลงวันนี้ ว่าเราได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง แต่เมื่อรัฐบาลเลื่อน เราก็ต้องเลื่อนตาม เพราะเราต้องรอผลการตรวจสอบก่อน ขณะนี้เรายังไม่สามารถบอกได้ว่าคนของเราถูกหรือผิด ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน
เมื่อถูกถามถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับการนำวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้ในการก่อสร้างอาคาร นายมณเฑียรกล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ และอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันต่างๆ จะไม่มีใครโกหกหรือปกป้อง สตง. อย่างแน่นอน
สำหรับกรณีที่รองผู้ว่าฯ สตง. ชี้แจงว่าไม่ทราบว่ามีบริษัทจากจีนเข้ามาร่วมกิจการกับคู่ค้า ตนเห็นว่าควรฟังรายละเอียดคำชี้แจงทั้งหมดก่อน อย่างไรก็ตาม จากที่ตนได้รับฟังและเข้าใจมา การที่ทั้งสองฝ่ายจะมีการร่วมมือกันก่อนที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะทราบนั้น อาจเป็นไปได้ แต่เมื่อมีการร่วมมือเสร็จสิ้นและมายื่นข้อเสนอเข้าร่วมประมูลแล้ว การกล่าวว่าไม่ทราบนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากตามระเบียบในการเข้าร่วมประมูล หากมีการร่วมมือระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทยและบริษัทไชน่าเรลเวย์จริง จะต้องมีการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาในขั้นตอนนั้น ดังนั้น จึงต้องแยกแยะว่า เราจะสามารถทราบได้หรือไม่ก่อนที่เขาจะมีการร่วมมือกัน ซึ่งประเด็นนี้เป็นข้อมูลที่ตนได้รับมาในเบื้องต้น
ในประเด็นจะมีการสร้างอาคาร สตง. แห่งใหม่ หรือไม่ นายมณเฑียรกล่าวว่า ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่โฟกัสในขณะนี้คือเรื่องของการสูญเสียและการช่วยเหลือเยียวยา
ขณะนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทอิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบในส่วนของการประกันภัยต่าง ๆ ที่บริษัทได้ดำเนินการไว้ ไม่ว่าจะเป็นประกันอาคารหรือประกันความเสียหายอื่น ๆ โดยบริษัทจะต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว
พร้อมกันนี้ สำนักงานฯ ได้มีหนังสือถึงบริษัทประกันภัย เพื่อให้ชำระค่าสินไหมทดแทนมายังสำนักงานฯ ในฐานะผู้ว่าจ้าง และในกรณีที่บริษัทได้ทำประกันกับบุคคลที่สามไว้ ก็ได้มีการแจ้งไปยังบริษัทประกันในลักษณะเดียวกันว่า บริษัทต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้รับประกัน รวมถึงแจ้งเลขาธิการ คปภ. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนด้านประกันภัย ซึ่งทั้งหมดได้จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรเรียบร้อยแล้ว
ส่วนในกรณีค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อสองวันก่อนทางกรุงเทพมหานครได้แจ้งปัญหาเข้ามา สำนักงานฯ จึงได้ประสานไปยังผู้รับจ้างให้รับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยผู้รับจ้างได้ยินยอมรับผิดชอบและได้จัดส่งค่าน้ำมันวันละ 4,000 ลิตรให้กับกรุงเทพมหานครแล้วตามที่แจ้ง
สำหรับการเยียวยาผู้เสียชีวิต สำนักงานฯ ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พิจารณาจ่ายเงินชดเชยตามระเบียบกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจำนวนเงินแล้วเห็นว่ายังไม่เพียงพอ จึงได้เสนอขอเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือกับกระทรวงการคลังในเบื้องต้นแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นความรับผิดชอบที่สำนักงานฯ ในฐานะผู้ว่าจ้าง ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ รวมถึงมีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว
ในเรื่องการเยียวยา สตง. ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอเงินชดเชยผู้เสียชีวิตตามระเบียบ และขอเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับกระทรวงการคลังแล้ว
นายมณเฑียรยังกล่าวถึงข้อสงสัยของประชาชนว่า สตง. พร้อมให้คณะกรรมการตรวจสอบในทุกเรื่อง เพื่อแสดงความโปร่งใส ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับความสนิทสนมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายมณเฑียรกล่าวว่า รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2549 และสนิทกันในช่วงปี 2553 ในฐานะเพื่อน ก่อนที่นายอนุทินจะเข้ามาทำงานการเมือง และเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการสอบสวนจะไม่นำชื่อเสียงมาเสื่อมเสียหรือให้ความช่วยเหลือใครอย่างแน่นอน

สำหรับข้อสงสัยเรื่องการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายใน สตง. เอง นายมณเฑียรกล่าวว่า หาก สตง. ตรวจสอบกันเอง สังคมอาจไม่เชื่อมั่น จึงต้องอาศัยหน่วยงานอื่นมาตรวจสอบ และ สตง. ยินดีรับการตรวจสอบอย่างเต็มที่

