DSI ขยายผลคดีนอมินี 2 บิ๊กก่อสร้าง ปมอาคาร สตง.ถล่ม รมว.ยธ.ลงพื้นที่ลุยเอง
1 min read
กรุงเทพมหานคร-DSI ขยายผลคดีนอมินี 2 บิ๊กก่อสร้าง ปมอาคาร สตง.ถล่ม รมว.ยธ.ลงพื้นที่ลุยเอง เดินหน้าเจาะ 4 สัญญาใหญ่ – ตรวจสอบเอกสาร ปลอมลายเซ็นวิศวกร ลั่นหากมีผิด ดำเนินคดีเด็ดขาด
เวลา 10.15 น. นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ยังซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่ม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) สองบริษัทยักษ์ใหญ่ในคดีนอมินี พร้อมทั้งขยายประเด็นการปลอมแปลงลายเซ็นวิศวกรควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
นายทวีระบุว่า หน่วยงานต่าง ๆ ต้องทำงานร่วมกันในการค้นหาผู้ประสบภัยภายในซากอาคาร ขณะเดียวกัน ด้านกฎหมายตำรวจได้ตั้งข้อหาเบื้องต้นในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนดีเอสไอรับผิดชอบในคดีนอมินี และอาจขยายผลสู่คดีเสนอราคาวัสดุต่อรัฐ หากพบว่าเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ต้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เข้ามาดำเนินการ
ดีเอสไอกำลังเร่งรวบรวมพยานบุคคล พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และเอกสารคู่สัญญาสำคัญ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 สัญญา ได้แก่
- สัญญาการออกแบบโครงสร้าง – เป็นบริษัทเอกชนออกแบบ ไม่ใช่กรมโยธา
- สัญญาควบคุมงาน
- สัญญาการเปลี่ยนแบบ
- สัญญาการก่อสร้าง
โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดในอีก 3 สัญญาอื่น ๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังพบประเด็นการปลอมลายเซ็นของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข วิศวกรระดับสูงที่ถือคุณวุฒิ 2 สาขา ซึ่งถูกอ้างชื่อว่าเป็นผู้ควบคุมงาน ทางดีเอสไอได้รับข้อมูลแล้ว และส่งให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็น คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบภายใน 1-2 สัปดาห์ ก่อนนำเข้าสำนวนคดี
ขณะนี้ดีเอสไอยังไม่สามารถดำเนินคดีอื่นได้ จนกว่าจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงของคดีนอมินีให้แล้วเสร็จ พร้อมทั้งระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ควรตื่นตัวและเข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ในส่วนของสัญญาควบคุมงาน การเปลี่ยนแบบ และการออกแบบ ยังไม่พบบริษัทจีนเกี่ยวข้องโดยตรง มีเพียงสัญญาก่อสร้างเท่านั้นที่พบชื่อบริษัทจีน

หากพบการกระทำผิดจะให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการออกหมายเรียกหรือหมายจับต่อไป ยืนยันว่าไม่มีความล่าช้า และหากผู้ต้องหาหลบหนีจะมีการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน