ลดซากตึก สตง. เหลือ 12 ม. เร่งหาผู้สูญหาย “ดีเอสไอ” รับเอกสารในตู้ 24 ใบถูกนำออกบางส่วน

กรุงเทพมหานคร-ลดความสูงยอดตึกสตง.ถล่มเหลือ 12 เมตร เครื่องจักรทำงานสลับกับทีมค้นหา คาดว่าจากชั้น 18 ลงมาจะพบร่างผู้ติดค้างมากขึ้น ขณะดีเอสไอยอมรับมีเอกสารภายในตู้ คอนเทนเนอร์ 24 ตู้ ที่ถูกอายัดถูกนำออกไปบางส่วน เร่งประสานให้กลุ่มกิจการร่วมค้าทำแผนผังระบุบุคคลที่ทำงานในองค์กร์ตามสัดส่วนต่าง ๆ ส่งให้ตรวจสอบก่อนพิจารณาเปิดตู้เอกสาร

วันที่ (18 เม.ย. 68) เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทีมส่องกล้องที่ด้านบนยอดซากอาคารได้พบเห็นสิ่งต้องสงสัย จึงได้วิทยุขอสนับสนุนทีมกู้ชีพกู้ภัยและประสานให้เครื่องจักรหยุดทำงานเป็นการชั่วคราว เพื่อส่งทีมปฏิบัติการเข้าตรวจสอบ ก่อนจะพบผู้ที่คิดค้างเพิ่มเติม 1 ร่าง เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการขุดเจาะคอนกรีต และนำร่าง ผู้ที่ติดค้างออกมาจากโซน C ได้เพิ่มเติม พร้อมนำเข้าสู่กระบวนการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลก่อนนำร่างส่งกลับให้ครอบครัวตามขั้นตอน

ด้าน นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหว ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร ว่า ความคืบหน้าวันนี้ ณ เวลา 16.00 น. ผู้ประสบภัย 103 คน เสียชีวิต 42 คน บาดเจ็บ 9 คน ติดค้าง 50 คน รอพิสูจน์อัตลักษณ์ 2 คน

สำหรับสถานการณ์จากการปฏิบัติงาน ทีมเจ้าหน้าที่สามารถลดความสูงของยอดซากตึกเหลืออยู่ที่ 12 เมตร โดยในโซน C,D เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ทหารเข้าปฏิบัติงาน ส่วนโซน A,B เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่มูลนิธิเข้าปฏิบัติงาน เครื่องจักรเน้นการทำงานโซน E คาดว่าจากชั้น 18 ลงมาจะพบร่างผู้ติดค้างมากขึ้น

ส่วนการทำงานเน้นเครื่องจักรหนักสลับกับทีมค้นหา ขนย้ายเศษปูนและเศษเหล็กจำนวน 307 เที่ยว ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ประมาณ 4,400 ลิตร ทีม DVI รวบรวมร่างผู้เสียชีวิต 2 คน และชิ้นส่วนอวัยวะ 14 ชิ้น รอพิสูจน์หลักฐานยืนยัน ด้านสำนักการระบายน้ำเข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำชั้นใต้ดินและป้องกันน้ำท่วมขัง

การดูแลช่วยเหลือประชาชนและการเยียวยา กทม.ได้ เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้แก่ ศูนย์พักพิง กทม. 3 แห่ง คือ การขอที่พักอาศัยผ่าน Airbnb ศูนย์พักพิงโรงเรียนวัดเสมียนนารี และศูนย์พักคอยญาติผู้ประสบภัย เขตจตุจักร

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พันตำรวจเอกวรณันท์ ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยผู้อำนวยการกองอายัดทรัพย์สิน เดินทางมาหารือ เพื่อเตรียมดำเนินการอายัดตู้คอนเทนเนอร์ภายในตึก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ซึ่งเป็นที่เก็บเอกสาร โดยการเข้าอายัดเอกสารในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเอกสารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ในโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ที่ผ่านมา // หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังบริเวณด้านหลังอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ประสบเหตุพังถล่ม เพื่อดำเนินการอายัดตู้คอนเทนเนอร์ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง

พันตำรวจเอกวรณันท์ ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ตู้ที่ยึดอายัดได้วันนี้มีจำนวน 24 ตู้ ภายในตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวบรรจุแฟ้มเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. โดยหลังจากนี้จะเชิญกลุ่มกิจการร่วมค้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาธิการและผังเมืองเข้าร่วมกันตรวจสอบเอกสารที่ตรวจยึดมาได้

สำหรับการเข้ายึดอายัดตู้คอนเทนเนอร์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ซีนห้องสำคัญเพื่อป้องกันการถูกบุกรุกโดยมีการใช้กุญแจล็อคไว้อย่างหนาแน่นยืนยันว่าทุกอย่างที่ตรวจยึดอายัดมาได้จะต้องถูกนำไปตรวจสอบ แต่หากส่วนไหนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีเจ้าหน้าที่ก็จะส่งคืนให้กลับไป

โฆษก กรมสอบสวนคดีพิเศษยังระบุ ถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าการเข้ามาตรวจยึดอายัดหลักฐานและเอกสารดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ช้าไปหรือไม่นั้น โดยยืนยันว่า เดิมทีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีคดีที่จะต้องทำคือคดีที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหรือนอมินี ต่อมาจึงมีการขยายประเด็นมาเรื่องของการฮั้วประมูลซึ่งก็จะต้องดำเนินการต่อ โดยการจะเข้ายึดอายัดหรือรวบรวมพยานหลักฐานก็จะต้องตรวจสอบไปตามข้อเท็จจริง ไม่สามารถทำอะไรโดยพละการได้

ส่วนการจะเปิดตู้หรือเรียกกลุ่มกิจการร่วมค้าเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการแต่เบื้องต้นก็ได้ประสานให้กลุ่มกิจการร่วมค้าทำแผนผังองค์กรที่ระบุผู้ทำงานในสัดส่วนต่างๆขององค์กร นำมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งสาเหตุที่ต้องดำเนินการลักษณะนี้ เนื่องจาก ตู้คอนเทนเนอร์แต่ละตู้มีบริษัทหลายส่วนที่ดูแล พร้อมยอมรับว่าก่อนหน้านี้อาจจะมีบางบริษัทที่เข้ามานำเอกสารบางส่วนออกไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอขอบคุณกรุงเทพมหานครที่ได้มีการจัดเวรยามตรวจสอบที่เพื่อให้สภาพทุกอย่างยังคงเดิมมากที่สุด