นครปฐม หญิงวัย 48 ปี ร้องสื่อ หมอให้กินยากันชักหลังพบเนื้องอกในสมอง แต่ตาบอด รพ.ยันไม่มีเงินเยียวยา
1 min read
หญิงวัย 48 ปี เผยเคยเฝ้าไข้แม่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เกิดอาการปวดหัว จึงขอตรวจสมองและพบเนื้องอก ได้รับยากันชักมากิน และเกิดอาการแพ้รุนแรงจนตาบอด ผิวหนังเน่า แต่กลับไม่มีเงินเยียวยาจากโรงพยาบาล อ้างแค่ 1 ในล้านจะเกิดอาการแพ้ดังกล่าว
โดยผู้เสียหายคือ นางบุญทรง ปุยะพันธ์ อายุ 48 ปี ชาว ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เผยว่าเหตุเกิดเมื่อเดือนกันยายน 2567 ขณะไปเฝ้าไข้แม่ในโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง แล้วเกิดอาการปวดหัว ไข้ขึ้น แพทย์ส่งตัวไปตรวจสมองที่โรงพยาบาลระดับจังหวัด พบมีเนื้องอก ก่อนให้ยากันชักมากินที่บ้าน วันละ 3 เม็ด ผ่านไป 10 วัน มีอาการช็อก หมดสติ ตาบอด ผิวหนังพุพอง เล็บหลุด ผมร่วง ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู 1 เดือน และกลับมารักษาต่อที่บ้าน
หมอแจ้งว่าเป็นอาการแพ้ยาซึ่งพบได้น้อยมาก หนึ่งในล้านคน ทางโรงพยาบาลท้องถิ่นรับผิดชอบเฉพาะค่ารักษา แต่ไม่สามารถเยียวยาเป็นเงินได้ ต้องไปรักษาต่อเดือนละ 3-4 ครั้ง ค่ารักษาและเดินทางเฉลี่ยเดือนละ 5-6 พันบาท ไม่มีรายได้เพราะพิการทางสายตา โดย สปสช. ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 260,000 บาท
ล่าสุดพี่ชายของผู้เสียหาย เผยว่าแม้มีการประสานไปยังโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา พร้อมวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลหญิงตาดำๆ คนนี้ด้วย
